home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
๑๑...
หลวงราชวงศาพาเทพที่เหลืออีกหกคนไปพักที่ตำหนักที่ได้มีการจัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขา หลวงราชวงศาทำท่าจะขอตัวกลับไปพักบ้าง แต่เกียรติภูมิอดห่วงนิลเนตรไม่ได้
หลวงราชวงศาครับ แล้วนิลเนตรล่ะ? เขาถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะไม่เห็นเธออยู่ที่นี่
หลวงราชวงศาคิดหาคำตอบสวยๆ
อย่าห่วงไปเลย พวกท่านควรพักผ่อนอยู่ที่นี่ไปตามสบาย สำหรับท่านนิลเนตรนั้น เป็นเพราะพระอาการของหลวงท่านยังไม่ค่อยทุเลาดี เราจึงอยากให้ท่านช่วยอยู่เป็นเพื่อน จนกว่าพระอาการจะดีขึ้น
อาการของรัชกาลที่๑มันแย่มากขนาดนั้นเลยหรือครับ? หมีอ้วนถาม
พวกท่านก็เห็นเพลาที่พระองค์ถูกยิงที่พระอุระ เฉียดกับตำแหน่งหัวใจอีกแค่ครึ่งปลายนิ้วก้อย
ทุกคนฟังแล้วหน้าซีด แสดงว่ารัชกาลที่๑เฉียดตายจริงๆ
ถึงงั้นก็เถอะ แต่ทำไมถึงต้องให้นิลเนตรไปเฝ้าด้วยล่ะคะ นิลเนตรเองก็เหมือนกับพวกเรา เป็นแค่คนธรรมดาเอง ช่วยอะไรได้ ปรียานุชดูไม่เข้าใจ เธออดอิจฉานิลเนตรไม่ได้จริงๆที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าอยู่ใกล้ชิดรัชกาลที่๑แบบนั้น
เป็นเพราะเราเห็นหลวงท่านดูจะโปรดท่านนิลเนตรมากเป็นพิเศษ หลวงราชวงศาจำต้องตอบ ถ้าได้ท่านนิลเนตรอยู่คอยถวายการปรนนิบัติ ท่านจะต้องหายวันดีคืนเป็นแน่แท้
ทุกคนอึ้งไปกันหมด เพราะเกรงว่าจะเป็นดังที่ตนกำลังนึกสงสัยอยู่
แต่นิลเนตรไม่ใช่คนของโลกนี้นะครับ สักวันเธอจะต้องกลับไปพร้อมกับพวกเรา หมีอ้วนเตือน
หลวงราชวงศามุ่นคิ้ว
สุดท้ายมันก็ต้องแล้วแต่ท่านนิลเนตรเองมิใช่รึ?
พวกเขามองหน้ากันเอง ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน
เมื่อเห็นดังนั้น หลวงราชวงศาก็ขอตัวจากไป ปล่อยให้ทั้งหกคนพักผ่อนกันตามสบาย
นิลเนตรจะเป็นพระสนมจริงๆเหรอ? ธิติมายังไม่ค่อยอยากเชื่อ
ภาคินีลืมตาขึ้น
ไม่ต้องห่วงหรอก นิลเนตรต้องกลับไปกับพวกเรา
ทุกคนหันไปมองเธออย่างประหลาดใจมากที่เธอพูดอย่างมั่นใจเช่นนั้น
ทำไม? เกียรติภูมิถามอย่างสงสัย
ก็คนที่นิลเนตรชอบคืออาจารย์พิชัย ถึงรัชกาลที่๑จะหน้าคล้ายกับอาจารย์แค่ไหน แต่ท่านมีมเหสีและพระสนมมากมาย
ทุกคนจึงนิ่งอึ้ง เพราะคิดดูมันก็จริงอย่างที่เธอพูด
มันก็ไม่แน่หรอก ศิลาอดพูดไม่ได้ ทำให้ทุกคนหันมาจ้องเขาเป็นตาเดียว อะไร ฉันพูดผิดหรือไง รัชกาลที่๑ดูๆไปดูดีกว่าอาจารย์เต่าล้านปีเป็นไหนๆไม่ใช่รึไง แถมท่าทางยังใจดีกว่าอีก ไม่จู้จี้ขี้บ่น นิลเนตรไม่ตกหลุมรักเข้าจริงๆก็แปลกแล้ว
เกียรติภูมิทำท่าอยากจะชกหน้าเขาขึ้นมา
โกรธฉันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ไงๆนิลเนตรเขาก็ไม่ชอบนายอยู่ดี สมน้ำหน้า อยากมัวแต่ทำอืดอาดยึดยาดดีนัก เลยโดนม.ค.ป.ด.เสียจนได้ ทั้งนายและอาจารย์พิชัยนั่นแหละ
แต่แทนที่เกียรติภูมิจะเป็นคนชกหน้าศิลา หมีอ้วนกลายเป็นคนซัดหน้าเขา
โอ๊ย นี่แกลงมือจริงๆเหรอ?
เออน่ะสิวะ เวลาแบบนี้พวกเรากำลังย่ำแย่กันหมดอยู่แล้วแท้ๆ แทนที่จะมาช่วยกันคิดหาหนทางกลับโลกของเรา แต่แกกลับพยายามจะคอยปัดแข้งปัดขาของคนอื่นอยู่เรื่อย ฉันทนแกมากเกินพอแล้ว นับจากวันนี้ไป แกไม่ใช่เพื่อนของฉันอีก
คนอื่นๆก็พลอยตกใจกันมากที่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น
ก็เอาซีวะ ถ้าอยากเป็นศัตรูล่ะก็
ศิลาทำท่าบ้าไปด้วยอีกคน คนอื่นๆต้องช่วยกันจับตัวสองคนแยกออกจากกัน พวกมหาดเล็กตกใจ รีบเข้ามาช่วยกันจับแยกคนทั้งสองโดยเร็ว
เอาไงดี? มหาดเล็กคนหนึ่งกระซิบถาม
รีบไปบอกหลวงราชวงศาก่อนดีกว่า
ดังนั้นจึงมีคนรีบรุดไปตามหลวงราชวงศา
แกมันก็ดีแต่ใช้กำลังนั่นแหละ ศิลาด่า
แล้วแกล่ะ? ดีแต่ปากหาความทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปทั่วอยู่เรื่อย หมีอ้วนก็ด่าตอบ
พวกนายสองคนเลิกทะเลาะกันที ธิติมาตะโกน
ก็มันอยากหาเรื่องก่อน ศิลาพูด
ใครกันแน่ที่หาเรื่อง หมีอ้วนว้ากกลับ
โอ๊ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ ปรียานุชกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะโทษใคร
ภาคินีได้แต่นอนน้ำตาไหล ไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นภาพที่แตกคอกันเองของทุกคน เธออยากจะตายเสียให้ได้
หลวงราชวงศาก็รีบร้อนกลับมารวดเร็วมาก เพราะจริงๆ เขาก็ยังไม่ได้ไปไกลเสียเท่าไหร่
เกิดเหตุอันใดขึ้น? เขาถามอย่างไม่เข้าใจอะไรเลย
ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้ว มันมาหาเรื่องชกผมก่อน ศิลาโทษว่าหมีอ้วนเป็นคนผิด
ฉันน่ะเหรอหาเรื่อง แกนั่นแหละที่ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว หลวงราชวงศา รีบให้ทหารจับมันไปสำเร็จโทษเลยครับ หมอนี่แหละที่เป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด ที่รัชกาลที่๑ต้องถูกยิง เพราะมันดันกุเรื่องว่ารัชกาลที่๑เป็นกบฎต่อพระเจ้าตากสิน
เฮ้ย! หมีอ้วน เกียรติภูมิตกใจมาก รีบใช้มือปิดปากเขาไว้แทบไม่ทัน
ศิลาหน้าซีดไปในบัดดล เพราะไม่คิดว่าหมีอ้วนจะกล้าพูดโพล่งออกมาดื้อๆขนาดนั้น
พวกผู้หญิงก็พากันหน้าซีดไปกันหมด
หลวงราชวงศาทำหน้าเคร่ง ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่า รัชกาลที่๑ที่พวกเขาพูดนั้นหมายถึงหลวงท่าน
ทหาร เฝ้าเอาไว้ดีๆ ข้าจะนำเรื่องทั้งหมดไปทูลให้หลวงท่านเป็นคนตัดสินเอง พูดจบ หลวงราชวงศาก็จากไป
หมีอ้วน พูดอะไรออกมา เกียรติภูมิคิดว่าซวยแล้ว
อย่างมันโดนประหารไปก็ดีแล้ว คนอย่างงี้อยู่ไปก็รกโลกเปล่าๆ หมีอ้วนพูดอย่างไม่สำนึกผิด
แต่ศิลาหน้าซีดขาวไปเลย เพราะเห็นลางตายอยู่ตรงหน้านี้เอง
หลวงราชวงศามาเข้าเฝ้าถึงแท่นบรรทม แล้วจึงนำความที่ได้รับรู้กราบทูลให้ทรงทราบจนหมดเปลือก รัชกาลที่๑มีพระพักตร์เครียดจัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ท่านฟังไม่ผิดแน่หรือ? ทรงยังไม่อยากเชื่อจริงๆ
ข้าพระพุทธเจ้าได้ยินเต็มสองรูหู ท่านหมีอ้วนได้สั่งให้ข้าพระพุทธเจ้าเอาทหารหลวงจับท่านศิลาไปสำเร็จโทษ เพราะแท้ที่จริงท่านศิลาเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังการถูกลอบปลงพระชนม์ครั้งนี้พระพุทธเจ้าค่ะ
รัชกาลที่๑อึ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองนิลเนตรที่ได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
มันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? รัชกาลที่๑ดูไม่เข้าใจ
หลวงราชวงศาเองก็หันมามองนิลเนตร
คิดว่าท่านนิลเนตรคงจะรู้การบางสิ่งเสียกระมัง
รัชกาลที่๑ก็เห็นเช่นนั้น
หลวงราชวงศาและทุกคน จงออกไปก่อนเถิด
ดังนั้น ทุกคนจึงค่อยพากันออกจากห้องไป เหลือเพียงแค่รัชกาลที่๑และนิลเนตรเพียงสองคนเท่านั้น
นิลเนตร มานั่งตรงนี้สิ ทรงตบลงบนแท่นบรรทมข้างพระวรกาย เพราะยังไม่มีแรงลุกเดินไปหาเองได้
นิลเนตรจึงค่อยขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะนั่งลงตรงนั้น
เล่าให้เราฟังได้หรือไม่? ถ้าเราช่วยเจ้าได้ เราก็อยากจะช่วย รับสั่งสุรเสียงอ่อนโยน
แต่ฝ่าบาทจะเชื่อที่หม่อมฉันทูลหรือเปล่าเพคะ?
มิว่าเจ้าจะพูดอย่างไร เราจะเชื่อเจ้าทุกประการ เราจะไม่สงสัยเจ้าเป็นมั่นคง
นิลเนตรอยากร้องไห้จริงๆ เธอจึงตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ฟังถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่แท้จริงของพวกเธอ ฐานะที่แท้จริงของพวกเธอ ตั้งแต่ที่เกียรติภูมิได้โพล่งเรื่องของรัชกาลที่๑เป็นกบฎให้อาจารย์พิชัยทราบ หลังจากนั้นพวกเธอก็ถูกส่งย้อนเวลากลับมายุคนี้โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จนกระทั่งได้มาพบกับพวกของฉายเข้า และเธอเองนั่นแหละที่เล่าเรื่องของตัวเองให้พวกของฉายฟัง โดยทุกคนก็ช่วยกันเล่าเสริมแต่งให้เห็นภาพจริง ทำให้พวกเขาทั้งสี่คนต้องมาแตกคอกันเอง และรัชกาลที่๑ก็ต้องถูกยิง
นิลเนตรเล่าจบแล้วก็เผลอร้องไห้ออกมา ทำให้รัชกาลที่๑ต้องกอดเธอไว้เหมือนจะช่วยปลอบประโลม
หม่อมฉันขอประทานอภัย หม่อมฉันไม่ตั้งใจทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ หม่อมฉันไม่น่าเล่าเรื่องของตัวเองให้พวกพี่ฉายฟังเลย พวกเขาก็คงจะไม่ต้องทะเลาะกันเอง พี่โมกพี่เช้งเองก็คงจะไม่กล้าทำการอุกอาจเช่นนี้
แต่เจ้าไม่ได้เจตนา รัชกาลที่๑รับสั่งเหมือนคำถาม
ถ้าหม่อมฉันรู้ หม่อมฉันจะไม่มีวันเล่าออกไปแน่
ทรงแย้มพระโอษฐ์นิดๆ แต่พระเนตรดูไม่ยิ้ม
เจ้าไม่ได้ประสงค์ร้ายกับเราก็ดีแล้ว
นิลเนตรงุนงง ไม่เข้าใจนัก แต่จู่ๆรัชกาลที่๑ก็ปล่อยเธอจากอ้อมพระกร แล้วก็ส่งสุรเสียงเรียกหลวงราชวงศาเข้ามา
จงรับบัญชา ให้ทหารคอยคุมตัวเทพทั้งหกให้อยู่แต่ภายในตำหนักไว้ อย่าปล่อยให้ใครเล็ดลอดออกนอกวังได้เป็นอันขาด ให้พวกเขาอยู่ภายในพระตำหนัก ไม่จำเป็นก็อย่าให้ออกไปไหนได้ ถ้าใครขืนไม่เชื่อ จงประหารได้ทันที ไม่ต้องรายงาน
รับด้วยเกล้าพระพุทธเจ้าค่ะ หลวงราชวงศาน้อมรับพระราชบัญชา
ไปได้แล้ว
ดังนั้น หลวงราชวงศาจึงได้คลานออกจากห้องไป
นิลเนตรหน้าซีดไปหมด ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเช่นนั้น
รัชกาลที่๑หันมาเห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอ
กลัวข้าหรือ? ทรงคล้ายพระสรวลลึกๆอยู่ในที
นิลเนตรนิ่งอึ้ง พูดแทบไม่ออก ตอนนี้เธอได้ประจักษ์แน่แก่ใจ ชายคนนี้มีอำนาจวาสนามาก สามารถชี้เป็นชี้ตายชีวิตของคนอื่นได้ และเธอเองก็เช่นเดียวกัน ยามนี้เธอเปรียบเหมือนกับลูกไก่ในกำมือของเขา ถึงติดปีกบินก็คงหนีไม่พ้น จึงไม่จำเป็นต้องสั่งกักขังเธอด้วยอีกคน
เด็กสาวคิดแวบถึงพระแสงดาบ ขอเพียงมีพระแสงดาบอยู่ใกล้ๆ เธออาจสามารถหนีหลุดรอดจากสถานการณ์นี้ได้ แต่พระแสงดาบก็ได้ถูกสมเด็จพระพี่นางเธอนำไปเสียแล้ว
เจ้าหนีเราไม่พ้นดอก รับสั่งเหมือนจะอ่านใจเธออย่างทะลุปรุโปร่ง
นิลเนตรเหลือบมองพระองค์อย่างเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา
พระแสงดาบก็หาได้อยู่ที่นี่ไม่ เพื่อนๆของเจ้าทุกคนก็ถูกเราสั่งจองจำไว้หมด เจ้าคิดว่ายังจะมีทางเล็ดลอดหนีได้อีกเช่นนั้นหรือ?
ฝ่าบาท... นิลเนตรอยากจะวิงวอน
เจ้ากับเพื่อนๆของเจ้าจงใจปิดบังและหลอกลวงเรา อ้างตัวเป็นเทพทั้งเจ็ดเพื่อจะมาหลอกให้เรามอบพระแสงดาบให้ ถ้าใครรู้เรื่องทั้งหมดนี้ เราจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ถูกเด็กเมื่อวานซืนตุ๋นจนเปื่อย คงกลายเป็นที่ตลกขบขันไปทั่วทั้งแผ่นดิน หากตอนแรกเจ้ายอมเล่าความจริงออกมาดีๆ เราอาจจะมอบพระแสงดาบให้กับพวกเจ้าก็ได้ แต่ต่อไปนี้อย่าหวังว่าเราจะให้พระแสงดาบแก่เจ้าอีกต่อไปเลย หากไม่เห็นแก่ที่พวกเจ้ามีความดีความชอบ ช่วยเผาเสบียงข้าศึกในครั้งกระนั้น จนเป็นเหตุให้แม่ทัพใหญ่ของพวกมันถูกประหารไปเสียคนหนึ่ง เราคงสั่งประหารเพื่อนๆของเจ้าไปแล้ว ที่เราต้องเกือบตายหนนี้ก็เป็นเพราะพวกเจ้าเอง ส่วนเจ้า...เราจะให้อยู่ที่นี่ในฐานะนางทาสบำเรอของเราเสีย
นิลเนตรหน้าซีดไปถนัด รู้ว่าพระองค์กริ้วจริงๆ จึงรับสั่งว่าจะไม่มอบพระแสงดาบให้อีกแล้ว
แบบนี้เธอกับคนอื่นๆก็คงไม่มีวันได้กลับบ้านอีกต่อไป ถ้าไม่มีพระแสงดาบ ก็ไม่อาจกลับบ้านได้
เจ้าจงตัดใจ แล้วอยู่ที่นี่ต่อไป...ในฐานะนารีเทพของเราเถิด รัชกาลที่๑ตรัสด้วยสุรเสียงเย็นชาอยู่
นิลเนตรน้ำตาไหลโดยไม่ตั้งใจ รัชกาลที่๑ทอดพระเนตรดูเพียงแค่ครู่เดียว ก็เบือนพระพักตร์หนีเสีย อดนึกน้อยพระทัยไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่า ชายคนนั้นมีอะไรดีนักหนา พระองค์ผู้เป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จึงไม่อาจจะสู้ได้เลย
ความจริงที่นิลเนตรร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเสียใจที่จะไม่ได้กลับบ้านไปพบกับอาจารย์พิชัย แต่เธอเสียใจที่ทำให้รัชกาลที่๑กริ้ว จนหมดความไว้วางพระทัยในตัวเธออีกต่อไปแล้ว
หม่อมฉันขอโทษเพคะ
ขอโทษกระไร? รัชกาลที่๑จำต้องหันกลับมา
หม่อมฉันไม่ทันคิดไปไกล ว่าเรื่องนี้จะทำให้ทรงอับอายถึงเพียงนั้น หม่อมฉันกับทุกคนแค่เพียงแต่อยากจะกลับบ้าน แล้วเราก็ไม่รู้จริงๆว่าฝ่าบาทจะยอมมอบพระแสงดาบให้หรือเปล่า หากพวกเราไม่ทำเช่นนี้ก็คงจะไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่พวกเราเป็นต้นเหตุทำให้พระองค์ต้องเกือบตาย พวกเราคงไม่มีคำแก้ตัวใดๆ มันเป็นความโง่เขลาของพวกเราจริงๆ
รัชกาลที่๑อึ้งเล็กน้อย รู้สึกเหมือนกับโดนมโนธรรมคอยบีบรัดภายในใจ น้ำตาของเธอประหนึ่งน้ำกรดที่ราดรดลงในพระฤทัย
นิลเนตรก้มลงกราบลงแทบพระบาทเพื่อขอประทานอภัยโทษในความผิดของตัวเองและคนอื่นๆ
รัชกาลที่๑พระทัยอ่อนยวบ ในที่สุดก็ยื่นพระหัตถ์ไปเพื่อประคองตัวเธอ แต่เพราะทำเช่นนั้น จึงทำให้รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมา
เป็นอะไรหรือเปล่าเพคะ? นิลเนตรเห็นพระองค์ดูมีสีพระพักตร์ซีดไปถนัด
ม...ไม่เป็นไร ทรงกัดฟันพูด
นิลเนตรจึงช่วยพยุงประคองลงนอนราบบนแท่นบรรทม พยายามจัดพระที่ให้ได้นอนสบายๆที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่าทางดูเป็นห่วงเป็นใยจนทรงสังเกตได้
รัชกาลที่๑ยื่นพระหัตถ์มาจับมือเธอไว้ ทำให้นิลเนตรจำต้องเหลือบตามาจนสบพระเนตรเข้า
ในอีกสองร้อยปีข้างหน้า เราจะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎต่อพระเจ้าตากสินเช่นนั้นรึ?
นิลเนตรอึ้งเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า
เพคะ ตอนนี้เริ่มมีแนวโน้มเช่นนั้นขึ้นมา เพราะความที่ไม่มีใครเชื่อว่าพระเจ้าตากสินจะมีอาการวิปลาสแบบนั้น จึงมีคนตั้งข้อสงสัยว่าคงเป็นเพราะพระองค์ก่อกบฎเอง แล้วจงใจจะบิดเบือนประวัติศาสตร์ด้วยการเขียนแก้พงศาวดารเสียใหม่ มันเป็นการง่ายที่ใครๆจะคิดเช่นนั้น เพราะความรู้สึกที่มีอคติต่อพระองค์ ฝ่าบาทเหมือนคนที่มาชุบมือเปิบแย่งเอาของๆคนอื่นไป บางคนถึงกับด่าประนามพระองค์ว่าเป็นคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง
รัชกาลที่๑นิ่งเงียบไปครู่ นิลเนตรได้แต่ก้มหน้าลง
เจ้าเป็นคนกล้ามาก ไม่เคยมีใครพูดกับเราเช่นนี้มาก่อน เราเหมือนกับคนที่มาชุบมือเปิบแย่งของคนอื่น ไม่กลัวหัวหลุดจากบ่าหรือเช่นไร
เอ้อ...หม่อมฉัน...
แต่คำพูดของเจ้ากลับทำให้เรารู้สึกถึงความจริงใจที่เจ้ามีต่อเรา ในโลกนี้คงไม่มีใครกล้าพูดกับเราเช่นนี้ดอก แล้วเจ้าเองล่ะ ...เจ้าก็คิดเช่นเดียวกับคนเหล่านั้นด้วยหรือไม่?
นิลเนตรยิ้ม นัยน์ตาฉายแววหวาน
มีแต่คนโง่เท่านั้นเพคะ ที่จะเชื่อโดยไม่มีหลักฐาน ทรงเป็นที่รักใคร่ของปวงประชา ถ้าทรงเป็นกบฎ มีหรือที่ไพร่ฟ้าทั่วทั้งแผ่นดินจะไว้วางใจยอมให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์โดยดี
รัชกาลที่๑แย้มพระโอษฐ์น้อยๆ พอใจกับคำตอบของเธอ แค่มีเธอคนเดียวที่ยอมเชื่อ ก็ทรงปลื้มปิติแล้ว คนอื่นจะคิดอย่างไรก็ช่าง
นอกจากหม่อมฉันแล้ว ยังมีอาจารย์พิชัยอีกคนเพคะ ที่ไม่เชื่อว่าฝ่าบาทจะเป็นกบฎ
รัชกาลที่๑อึ้งไปครู่
ถ้าเจ้ามีโอกาสกลับไปพบกับอาจารย์ของเจ้า ก็ช่วยฝากขอบใจด้วยแล้วกัน
รับสั่งแบบนี้ หรือว่า...จะทรงมอบพระแสงดาบให้หม่อมฉัน? นิลเนตรสะดุดหูขึ้นมา
ไม่ เราเป็นเจ้าแผ่นดิน เมื่อพูดแล้วไม่คืนวาจาสัตย์
นิลเนตรจ๋อยเล็กน้อย แล้วแบบนี้เธอจะมีโอกาสกลับไปบอกอาจารย์พิชัยแบบนั้นได้อย่างไรเล่า แสดงว่าแกล้งพูดนี่นา
นี่ถือเป็นการลงทัณฑ์ที่พวกเจ้าทุกคนบังอาจหลอกลวงเรา จงเลิกคิดเรื่องที่จะกลับไปยังโลกของเจ้าเสียเถิด รัชกาลที่๑ไม่ยอมพระทัยอ่อน
นิลเนตรยิ่งจ๋อยมากขึ้น รัชกาลที่๑ถึงกับแย้มพระโอษฐ์พอพระทัยนิดๆ ที่ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเธอเช่นนั้น
"ทรงมีพระกระแสรับสั่ง ให้คุมตัวเทพทั้งหกไว้ภายในพระตำหนัก ห้ามออกนอกเขตพระราชฐาน หากมิเชื่อฟัง ให้ประหารได้ในทันที มิต้องรายงาน ทหารหลวงผู้หนึ่งอ่านรายงานประกาศออกมา
เหล่าเทพกำมะลอทั้งหกพากันหน้าซีดเผือดไปตามกัน ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้
หมายความว่า...พวกเราถูกกักบริเวณใช่ไหม? เกียรติภูมิถามให้แน่ชัดถึงสถานการณ์ของตัวเองและคนอื่นๆ
ก็เช่นนั้นแหละ นายทหารตอบอย่างไม่แยแสนัก
นิลเนตรล่ะคะ? ธิติมาถาม ชักเป็นห่วงอีกฝ่ายขึ้นมา
เราหารู้ไม่ นายทหารตอบตามจริง
ทุกคนหันมามองหน้ากันเอง
เกิดอะไรขึ้น? รัชกาลที่๑ทรงคิดจะทำอะไรกับนิลเนตร? ทำไมไม่ให้ทหารพามาขังไว้กับพวกเราที่นี่? ปรียานุชดูสงสัย
ดูรูปการณ์นี้...สงสัยว่านิลเนตรคงจะเสร็จรัชกาลที่๑ไปแล้วแหงแก๋ ศิลาอดปากมากไม่ได้อีกตามเคย
พูดอะไรของแก เกียรติภูมิถามเสียงลอดไรฟัน ตอนนี้เขาโกรธจนแทบจะระงับสติไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว
อ้าว หรือไม่จริง พวกนายก็ลองนึกดูดีๆ ตอนนี้รัชกาลที่๑ทรงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว มีหวังท่านคงกริ้วจัดมาก แล้วนิลเนตรเองก็อยู่ใกล้ๆมือ ท่านคงต้องหาทางระบายอารมณ์แค้นไปที่นิลเนตรอย่างแน่นอน ในหนังทีวีก็มีให้เห็นออกเยอะแยะหลายเรื่อง เวลาที่พระเอกโมโหจนลืมตัวใช้กำลังปลุกปล้ำข่มเหงนางเอก ก็เพราะทั้งรักทั้งแค้นยังไงล่ะ แต่ก็ดีไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างน้อยรัชกาลที่๑ก็ไม่ได้เอาผิดมาถึงพวกเราไง
แก! เกียรติภูมิกระชากคอเสื้อเขา
ไม่ใช่เวลาจะมาพูดแบบนี้นะ ต้องหาทางช่วยนิลเนตรหนีก่อนไม่ใช่หรือไง? หมีอ้วนบอกกับเขา
เกียรติภูมินึกขึ้นได้ เขาหยิบปืนไฟแช็กของตัวเองออกมายื่นต่อหน้าพวกทหารหลวง
พวกเจ้าดูนี่ นี่คืออาวุธเทพ เขาจุดไฟขึ้นมา พวกทหารหลวงก็พากันตกใจผงะ ท่าทางดูหวาดกลัวไปตามๆกัน
จงรีบพาเราไปพบรัชกาลที่๑เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากถูกไหม้เกรียมกลายเป็นตอตะโก
พวกทหารหลวงหันมามองหน้ากันเอง ท่าทางลังเลขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
ทำกระไรกัน? เสียงหลวงราชวงศาตวาด
ทุกคนมีการอาการนิ่งเงียบกันไปเล็กน้อย ขณะที่ผู้สูงอายุเดินเข้ามาในห้อง พวกทหารหลวงก็ทำท่าไปหลบอยู่ข้างๆกัน
หลวงราชวงศาไม่ทำท่ากลัวเกรงอำนาจของเทพ เขาเพียงแต่ใช้สายตาจ้องมองเท่านั้น เหล่าเทพก็ไม่มีใครกล้าสบตาด้วย
หลวงท่านอุตส่าห์มีใจเมตตา ไม่คิดเอาผิดพวกท่าน จึงมีรับสั่งให้แค่กักบริเวณพวกท่านเท่านั้น แต่พวกท่านก็ยังมีใจคิดอาจหาญ กล้าบังอาจข่มขู่พวกทหารหลวง หรือต้องการจะก่อกบฏเป็นแน่แท้ เช่นนั้นไอ้แก่คนนี้ก็ขอพร้อมยอมตายเพื่อถวายเป็นราชพลี เพื่อสนองเบื้องพระยุคคลบาท ก็เอาซี จะใช้อำนาจเทพกระไรก็จงใช้มาเถิด ชีวิตไอ้แก่คนนี้ก็เป็นเพียงแค่ไม้ใกล้ฝั่ง จะอยู่รอวันพรุ่งไปเพื่อกระไร เขาพูดเหมือนท้าทายอย่างไม่กลัวตาย
พวกทหารหลวงได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดมีใจนึกฮึดขึ้นมา จึงเข้าไปช่วยกันทำหน้าที่คอยคุ้มกันหลวงราชวงศา หากพวกเทพขืนทำอะไร ก็ขอยอมตายเพื่อปกป้องเขาเอาไว้
เกียรติภูมิและคนอื่นๆ เห็นเช่นนั้น ก็รู้ตัวว่าคงไม่มีปัญญาจะขัดขืน จึงได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำ
หลวงราชวงศาเห็นพวกเขามีท่าทางดูยอมแพ้ จึงให้ทหารหลวงไปตรวจค้นให้ทั่ว เพื่อริบสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธเทพออกมาเสียให้หมด
รัชกาลที่๑มีอาการกริ้วจัดที่ได้ทราบว่า พวกเทพที่เหลือต่างคิดพยายามจะก่อกบฏขึ้นมา
บังอาจเกินไปแล้ว ข้ารึอุตส่าห์ไว้ชีวิตให้ ยังคิดจะก่อกบฎอีก ช่างเลี้ยงไม่เชื่อง แล้วแบบนี้จะให้ปล่อยเอาไว้ได้อย่างไร
นิลเนตรได้ฟังก็ตกใจหน้าซีดเผือด
ข้าพระพุทธเจ้าได้ให้พวกทหารหลวงริบอาวุธเทพไว้ได้หมด และนำมาถวายอย่างที่เห็น เพลานี้ก็ได้ให้คุมตัวเอาไว้ รอทรงมีรับสั่งลงอาญาพระพุทธเจ้าค่ะ หลวงราชวงศากราบทูล
โทษของการกบฏมีเพียงสถานเดียวเท่านั้น...
ฝ่าบาท! นิลเนตรผวาเข้ากอดพระชงฆ์ไว้ สะอื้นร่ำไห้อย่างโศกเศร้า หากทุกคนตายไป เธอจะอยู่ได้อย่างไร
รัชกาลที่๑นิ่งเงียบ สีพระพักตร์ยากที่จะบอก แม้จะสงสารอย่างไร แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนกฎมณเฑียรบาลได้
หลวงราชวงศานิ่งอึ้งไปครู่ ทราบว่าทรงกำลังลำบากพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เขาคิดได้แวบเดียว ก็รีบน้อมบังคมทูล
ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าเห็นว่า เราไม่บังควรจะประหารเทพเป็นอันขาด มิเช่นนั้น หากเรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงสวรรค์เบื้องบน อาจก่อให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์และเทพได้ แม้นถ้าว่ากลายเป็นความขึ้น ก็รังแต่จะส่งผลร้ายต่อบ้านเมืองเท่านั้นแล อันหาสมควรที่จะกระทำเหมือนหักหาญเยี่ยงนั้นไม่โดยเด็ดขาด
เช่นนั้นท่านเห็นควรอย่างไร? รัชกาลที่๑ตรัสถาม
พวกท่านทั้งเจ็ดแม้จะเป็นเพียงเทพที่มีฤทธิ์น้อย แต่ทุกท่านก็ล้วนมีภูมิปัญญาแห่งสวรรค์ มิสมควรปล่อยตัวไปเป็นอันขาด แต่จะลงโทษเฉกเช่นเดียวกับพวกมนุษย์ก็หาสมควรไม่ด้วยเช่นกัน อันผู้ที่จะทำการลงโทษพวกท่านได้ เห็นคงมีแต่จอมเทพที่ประทับอยู่บนสวรรค์วิมานเท่านั้นไซร้ ข้าพระพุทธเจ้าจึงเห็นควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเหล่าเทพเบื้องสูงเป็นผู้ดำเนินการเองจะดีกว่า
ท่านหมายความว่า จะให้เรามอบดาบของเราให้กับพวกเขาเช่นนั้นรึ? รัชกาลที่๑ดูจะไม่เห็นด้วยขึ้นมา เพราะทรงได้ลั่นปากไว้ว่าจะไม่มอบพระแสงดาบให้โดยเด็ดขาด จะให้เสียสัตย์วาจาได้อย่างไร
ทรงมีพระดำริอื่นหรือพระพุทธเจ้าค่ะ? หลวงราชวงศาทูลถาม
ที่สวรรค์เบื้องบนขับไล่พวกเขาลงมาที่นี่ ก็เพราะพวกเขาได้ทำผิดเอาไว้มิใช่รึ ที่ส่งพวกเขาให้มาอยู่กับเรานั้น ก็เพื่อจะให้เราเป็นคนลงโทษพวกเขาเอง เช่นนั้นเราก็เห็นควรทำตามที่เบื้องบนต้องการ เราจะกำราบพวกเขาให้อยู่มือของเราเอง โดยขอใช้ชื่อของเราเองเป็นเดิมพัน ตอนนี้จงให้กักขังพวกเขาเอาไว้ก่อน หากพวกเขายังขืนไม่เชื่อฟังอีก ก็ส่งตัวเข้าคุกหลวงต่อไป ถ้าไม่ชอบใช้ชีวิตอยู่สบายๆ ก็ให้ไปทนลำบากอยู่ในนั้นเสียให้พอ
ท่านภาคินีด้วยหรือพระพุทธเจ้าค่ะ? หลวงราชวงศาทูลถามอีกครั้ง
นางไม่เกี่ยว ยกเว้นนางคนเดียว อย่างไรเสีย อย่าปล่อยให้นางเป็นอันใด ให้หมอหลวงคอยดูอาการนางทุกระยะ แต่เมื่อนางหายแล้ว ก็ให้กุมไว้ที่ตำหนักเทพด้วยเช่นกัน
พระพุทธเจ้าค่ะ หลวงราชวงศารับพระราชบัญชา แล้วก็เหลือบตามองนิลเนตรเล็กน้อย แล้วท่านนิลเนตรล่ะพระพุทธเจ้าค่ะ?
นิลเนตรเกือบสะดุ้ง เมื่อถึงเวลาตัดสินโทษของเธอบ้าง
ท่านจะให้ทำอย่างไรกับนางรึ? รัชกาลที่๑รับสั่งถามความเห็น
ข้าพระพุทธเจ้าเห็นควรว่า เพื่อไม่ให้เทพองค์อื่นคิดก่อกบฎขึ้นอีกได้ ควรกุมท่านไว้เป็นตัวประกันจะดีกว่า ให้ขังแยกจากตำหนักของเทพทั้งหกเสีย
เช่นนั้นก็ให้นางอยู่เสียที่นี่กับเรา เราจะเป็นคนกุมนางไว้เอง เอาล่ะ หากไม่มีการอื่นแล้ว ท่านก็จงไปพักผ่อนเสียเถิด นี่ก็ดึกมากโขแล้ว
พระพุทธเจ้าค่ะ ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลลา
หลวงราชวงศาบังคมลา แล้วจึงคลานออกจากห้องไป
รัชกาลที่๑ทรงกอดอกและทอดพระเนตรมองดูเธอยิ้มๆ
เราได้ไว้ชีวิตเพื่อนๆของเจ้าแล้ว เจ้าจะหาทางตอบแทนเราอย่างไร
นิลเนตรมีอาการอึกอัก
ทรงประสงค์สิ่งใดเพคะ? หากทำได้ หม่อมฉันก็ยินดีจะถวายตอบแทนน้ำพระราชหฤทัย
รัชกาลที่๑ทอดพระเนตรมองเธอด้วยนัยน์ตาฉายประกายระยิบ
เจ้าไม่รู้จริงๆหรือว่า เราต้องการสิ่งใดจากเจ้า?
นิลเนตรหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
ห...เห็นจะไม่ได้เพคะ
ทำไม?
รัชกาลที่๑ไม่เข้าพระทัย ดูผิดหวังอยู่ไม่น้อย ไม่เคยมีสตรีนางใดกล้าปฏิเสธพระองค์มาก่อน
หม่อมฉันและพระองค์เป็นคนต่างพิภพ ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ตลอดไป สักวันหม่อมฉันก็ต้องกลับไป
เจ้ายังหวังจะกลับไปอีกกระนั้นหรือ? เราบอกแล้วว่าจะไม่มอบดาบให้ เจ้ากับเพื่อนๆของเจ้าจึงต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป ทรงทำท่าดื้อรั้นขึ้นมา
จะทรงกันแยกห่างหม่อมฉันออกจากพระแสงดาบตลอดไปได้หรือเพคะ? เมื่อใดที่สมเด็จพระพี่นางเธอได้ถวายคืนพระแสงดาบแก่พระองค์ ถึงเวลานั้นพระองค์จะซ่อนพระแสงดาบไว้ที่ใดให้พ้นจากสายตาของหม่อมฉัน
เราจะหักทำลายมันเสีย แล้วให้คนนำไปฝังห่างไกลจากพระนคร เท่านี้เจ้าก็หมดหนทางเลือกอีกต่อไป
นิลเนตรนิ่งอึ้ง พูดไม่ออก
รัชกาลที่๑นิ่วพระพักตร์ รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาอีก ทรงอยากพักผ่อนเต็มทีแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้มีแต่จะทำให้พระอาการทรุดลง
เอาเถิด เจ้าเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จงเข้านอนพักผ่อนเสียเถอะ ทรงรับสั่งตัดบทเสีย
นอน? ที่ไหนเพคะ? นิลเนตรชักวิตก
รัชกาลที่๑จึงนึกขึ้นได้ เห็นท่าทางของนิลเนตร จึงลืมองค์แย้มพระโอษฐ์อย่างเห็นขัน ทั้งๆที่ยังเจ็บแผลอยู่ไม่น้อย
เจ้าก็ได้ยินแล้ว เพลานี้เจ้าเป็นตัวประกันของเรา เจ้าจึงต้องอยู่กับเราที่นี่ คืนนี้เจ้าก็นอนกับเราที่นี่ก็ได้ ไว้วันรุ่งพรุ่งนี้เราจะให้คนจัดเตรียมที่นอนให้เจ้าเสียใหม่
นิลเนตรหน้าเป็นสีจัดยิ่งขึ้น ทำให้ทรงยิ่งเห็นขัน
เจ้าจะวิตกกระไร เจ้าก็เห็นอยู่แล้ว เพลานี้เรายังคงเป็นคนเจ็บสาหัสอยู่ เห็นจะกระทำการใดๆที่เป็นการหักหาญน้ำใจเจ้าเสียมิได้ดอก
หม่อมฉัน...นอนที่พื้นดีกว่า นิลเนตรรีบพูด
ไม่ได้ ที่พื้นมันแข็ง เจ้าจะปวดหลังเปล่าๆ นอนกับเราเสียที่แท่นนี่แหละ ทรงออกคำสั่งเสีย
นิลเนตรรู้ว่าคงไม่อาจอิดเอื้อนได้อีก จึงขยับลุกขึ้นไปนั่งที่บนแท่นบรรทม ก่อนค่อยล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วทำท่าตัวแข็งน้อยๆ เมื่อรัชกาลที่๑ขยับเข้าชิด และใช้อ้อมพระกรกอดเธอเอาไว้หลวมๆ แต่ก็มิได้ทรงทำอะไรมากไปกว่านั้น ทำให้เธอค่อยวางใจและหลับไปได้โดยอันดี
home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
|