home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
๑๑
เดือนไฉไลกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ในบาร์ เธอเอาแต่นั่งดื่มอย่างเดียวโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น
รามิลถือแก้วเหล้าแล้วย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกับเธอ โดยไม่เอ่ยปากขออนุญาตจากเธอก่อน
ไง เขาทัก
เดือนไฉไลมองหน้าเขา จำเด็กหนุ่มได้ดี
มีอะไร? เธอถามห้วนๆ
เอาแต่ดื่มแบบนี้ มันจะแก้ไขอะไรได้ ยังไงก็ไม่ช่วยทำให้คุณปู่ผมหันมารักคุณได้หรอกน่า
เดือนไฉไลถลึงตาใส่
มันเรื่องของฉัน เธอทำเสียงเป็นตวาด
แต่รามิลไม่ได้ทำท่ากลัวเกรงเธอแม้แต่น้อย
โง่จริงๆ กะแค่ผู้ชายคนเดียว ทำท่าจะเป็นจะตายไปได้ ก็แค่ผู้ชายเขาไม่รักคุณเท่านั้น
แก...จะหาเรื่องใช่ไหม? เดือนไฉไลสาดเหล้าใส่หน้าเขา
รามิลไม่ทำท่าโกรธ เขากลับยิ้ม
ผมไม่ได้มาหาเรื่อง แต่อยากช่วยเตือนสติ คุณทำแบบนี้ดูไม่ฉลาดเอาเลย ตอนนี้คุณต้องสูญเสียหมดทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว ทั้งชื่อเสียงเงินทองและความรัก ขนาดบ้านจะกลับไปก็ยังไม่มี จะว่าไปเพราะคุณทำตัวเองแท้ๆ
เดือนไฉไลเม้นปาก
ถ้าคุณไม่มีที่ไปล่ะก็ ผมจะช่วยคุณเอามั้ย?
ไม่ต้อง ฉันไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคนอย่างแก เดือนไฉไลพูด
รามิลยักไหล่
งั้นก็ตามใจ
เดือนไฉไลหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วเธอก็เรียกเบอร์เพื่อนคนหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทกัน เธอจะให้เด็กหนุ่มดูว่าเธอเองก็รู้จักเอาตัวรอดได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องง้องอนเขา
แต่เพื่อนของเธอกลับไม่ยอมรับสาย พอรู้ว่าเป็นเธอ
หญิงสาวโมโหมาก
นังเพื่อนทรยศ
รามิลยิ้ม
ไม่แปลกหรอกคุณ ก็คุณก่อเรื่องขนาดนั้น ยังจะมีใครหน้าไหนกล้าคบคุณอีก ตอนนี้ถ้าคุณไม่ไปกับผม คุณก็เหลืออยู่แค่ทางเดียวเท่านั้น
ทางอะไร? เดือนไฉไลถาม
รามิลหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ หันไปมองรอบๆ
คุณก็ดูรอบๆเองสิ ในห้องนี้ก็มีผู้ชายหน้าตาดีๆอยู่นะ คุณก็แค่ขอเขาไปค้างคืนด้วยก็พอแล้ว
ไอ้บ้า! ฉันไม่ใช่กะหรี่นะ เดือนไฉไลตวาด หน้าซีดเล็กน้อย นี่เธอจนตรอกขนาดนั้นแล้วหรือ
ถึงไม่ใช่ตอนนี้ แต่อีกหน่อยก็ต้องใช่ นี่แหละจุดจบของผู้หญิงที่ทำตัวไม่อยู่ในกรอบ
เดือนไฉไลอึกอัก
ฉัน...ฉัน...
น่า ไปกับผมเถอะนะ แล้วผมจะช่วยให้คุณได้ทุกอย่างกลับคืนมาเอง
เดือนไฉไลจ้องหน้าเขา นึกระแวงสงสัยขึ้นมา
แกต้องการอะไรจากฉันกันแน่?
ผมก็แค่ต้องการจะใช้ประโยชน์จากคุณนิดหน่อย เราต่างคนก็จะได้ประโยชน์ทั้งคู่ แบบนี้ไม่ดีรึไง?
อธิบายให้ชัดๆไม่ได้หรือไง? ฉันอยากรู้ว่าแกจะให้ฉันทำอะไร?
ก็ไม่มีอะไร แค่ช่วยเอาสูตรยาอมตะมาให้ผม ผมจะได้เอามันไปขายให้กับพวกเศรษฐีที่อยากจะได้มันจนตัวสั่นไงล่ะ
เดือนไฉไลเข้าใจทันที
แกเป็นหลานของเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่ขอเขาตรงๆเลยล่ะ
ผมเคยลองแล้ว แต่เขาไม่ยอมให้นี่สิ
เดือนไฉไลยิ้มขัน
ขนาดแกเป็นหลานแท้ๆ เขายังไม่ยอมเลย แล้วคิดว่าอย่างฉันจะทำได้งั้นเหรอ?
ได้สิ ก็คุณเป็นพี่สาวของฟ้ารุ่งนี่นา
เดือนไฉไลไม่เข้าใจความหมายของเขา
เหมวันต์พาฟ้ารุ่งมาส่งที่ห้องพัก
คืนนี้คุณนอนที่ห้องนี้ไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ผมจะขับรถพาคุณไปส่งที่บ้านเอง ชายหนุ่มบอกเธอเสียงเรียบ
นี่คุณอยากจะไล่ฉันไปเร็วๆหรือคะ? ฟ้ารุ่งถามอย่างเจ็บปวดนัก
เหมวันต์เบือนหน้าหนี
ผมแค่คิดว่า...ผมควรทำสิ่งที่ถูกต้อง ในเมื่อคุณไม่ได้รักผมแล้ว เราก็ควรจะแยกทางกันดีกว่า ผมไม่อยากจะเป็นคนทำลายชีวิตคุณ คุณยังสาวยังสวย น่าจะได้กับคนที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่ามาอยู่กับคนแก่ๆอย่างผม
ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ฟ้ารุ่งพูด
เอาเถอะ คุณนอนซะ แล้วพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า ผมจะได้พาคุณไปส่ง
คุณเหมวันต์
แต่เขาออกจากห้องไปแล้ว ไม่ยอมเหลียวกลับมามองเธอด้วยซ้ำ
หญิงสาวได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง
เธอหันไปมองรอบๆห้อง บรรยากาศดูเงียบเชียบวังเวงชอบกล
ถ้าเหมวันต์อยู่ด้วย เธอคงจะไม่รู้สึกแบบนี้
ห้องนี้ควรจะเป็นเรือนหอของพวกเธอ แต่ตอนนี้กลับมีแต่เธอ ไม่มีตัวเจ้าบ่าว
การแต่งงานพังพินาศหมด ชีวิตของเธอไม่มีเหลืออะไรอีกต่อไป
ฟ้ารุ่งคิดว่า หลังจากพรุ่งนี้แล้ว เธอจะกลับลอนดอนไป และคงจะไม่กลับมาอีก
เหมวันต์แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปดูฟ้ารุ่งที่ห้องของเธอ
คุณจัดของเรียบร้อยแล้วเหรอ? เขาสังเกตเห็นว่าเธอจัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้เลยหรือเปล่าคะ?
ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากจะไปเร็วๆล่ะก็...
ฉันไม่เคยบอกสักคำว่าอยากจะไป คุณเป็นคนบอกให้ฉันไปเอง
เหมวันต์นิ่งไปเป็นครู่
เดี๋ยวเราลงไปทานข้าวเช้ากันก่อน แล้วผมถึงจะพาคุณไปส่ง เขาเดินเข้ามาช่วยถือกระเป๋าให้
ไม่ต้องค่ะ ฉันถือเองได้
ผมถือดีกว่า ให้ผมได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษครั้งสุดท้าย
ฟ้ารุ่งจึงปล่อยให้เขาถือกระเป๋าของเธอไป
หญิงสาวเดินตามหลังเขาลงมาจนถึงชั้นล่าง ชายหนุ่มวางกระเป๋าเธอชิดผนัง แล้วค่อยพาเธอไปยังห้องทานข้าว
ระเด่นเตรียมกับข้าวไว้สองที่สำหรับนายจ้างของเขา
คุณฟ้ารุ่งจะไปจากที่นี่จริงๆหรือครับ? ระเด่นถาม
จริง เหมวันต์เป็นคนตอบ
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ? เพิ่งจะแต่งงานกันแท้ๆเองนะครับท่าน ระเด่นทำท่าท้วงเหมือนไม่อยากให้เธอไป
หญิงสาวทานข้าวต้มไปเงียบๆ พยายามไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพราะกลัวจะเผลอร้องไห้ออกมา
ตอนนี้ลำคอเธอตีบตันไปหมด จนแทบทานอะไรไม่ลงคอ
ระเด่นได้ยินเสียงรถก็รีบออกไปดู
หนุ่มสาวทานข้าวต้มไปเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
สักครู่พวกเขาก็ได้ยินเสียงเดินเข้ามา ทั้งสองจึงหันไปมองตามเสียงนั้น
ฟ้ารุ่งแทบไม่เชื่อตาตัวเอง เมื่อเห็นเดือนไฉไลมาพร้อมกับรามิล
พี่เดือน! เธออุทาน
ฟ้า! ช่วยพี่ด้วย!
เดือนไฉไลรี่เข้าไปกอดน้องสาว แล้วก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรออกมา
เกิดอะไรขึ้นหรือคะ? พี่เดือน ฟ้ารุ่งถาม
เหมวันต์หันไปมุ่นคิ้วมองรามิล
นี่มาด้วยกันได้ยังไง? ชายหนุ่มดูสงสัยขึ้นมา
ผมไปเจอคุณเดือนที่บาร์ครับ กำลังนั่งดื่มเหล้าแก้กลุ้มอยู่ แล้วจู่ๆก็มีผู้ชายกลุ่มนึงเข้ามาลวนลาม คงเห็นเป็นผู้หญิงสวยมาคนเดียว ผมจึงเข้าไปช่วย แล้วพาตัวมาที่นี่
ฟ้ารุ่งได้ฟังก็รู้สึกสงสารพี่สาว
โธ่ พี่เดือน
ฟ้า พี่ขอโทษ เป็นเพราะพี่ไม่ดีเอง พี่ตั้งใจไปทำลายพิธีแต่งงานของฟ้ากับคุณเหมวันต์ แต่ตอนนี้กรรมมันตามสนองพี่แล้ว คุณพ่อตัดความสัมพันธ์กับพี่ ตอนนี้พี่ไม่มีทางไปอีกแล้ว ถ้าฟ้าไม่ช่วยพี่คราวนี้ พี่ต้องตายแน่ๆ
ฟ้ารุ่งอึกอัก อยากจะช่วยเธอ แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ฟ้ากำลังจะกลับบ้านพอดีเลยค่ะ งั้นเดี๋ยวเรากลับบ้านพร้อมกัน ฟ้าจะลองพูดกับคุณลุงดู คิดว่าคุณลุงอาจยกโทษให้พี่ก็ได้นะคะ ฟ้ารุ่งปลอบ
ฟ้าจะกลับบ้านเหรอ? ทำไมล่ะ? ก็ฟ้าแต่งงานกับคุณเหมวันต์แล้ว ฟ้าก็ต้องอยู่ที่นี่สิ
ฟ้ารุ่งหน้าซีดเล็กน้อย
คุณเหมวันต์ไม่ต้องการให้ฟ้าอยู่ที่นี่นี่คะ เธอพูดด้วยน้ำเสียงฟังขัดๆ
คุณเหมวันต์ เดือนไฉไลหันไปทางเขา ก่อนจะยกมือประนมไหว้เขาเหมือนจะขอลุแก่โทษ เดือนต้องขอโทษด้วยที่พูดจาล่วงเกินคุณออกไป แต่เดือนไม่ตั้งใจจะหมายความตามนั้นหรอกค่ะ เดือนเพียงแต่อิจฉาฟ้ารุ่งที่กำลังจะได้ดี ก็เลยพาลหาเรื่องให้พวกคุณผิดใจกัน ความจริงแล้วฟ้ารุ่งไม่ได้มีอะไรกับพี่ภัทหรอกนะคะ แล้วฟ้ารุ่งก็ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกคุณแต่แรก มันเป็นแผนของคุณพ่อกับพี่ภัทที่เรียกฟ้ารุ่งกลับมาเอง โดยทำทีว่าคุณพ่อล้มป่วยใกล้ตาย ฟ้ารุ่งเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ เธอก็เลยยอมร่วมมือด้วย เรื่องนี้ฟ้ารุ่งไม่ได้ผิดนะคะ แล้วเธอก็รักคุณจริงๆ
เหมวันต์หันไปมองหน้าฟ้ารุ่ง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองเดือนไฉไลอีกครั้ง
พวกคุณพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ ผมงงไปหมด ไม่รู้จะเชื่ออะไรได้อีกแล้ว เขาพูดเสียงขมขื่นอยู่ไม่น้อย
แต่เดือนสาบานได้นะคะ ถ้าที่เดือนพูดมาเมื่อกี้ไม่เป็นความจริงสักเรื่องเดียว ก็ขอให้เดือนต้องมีอันเป็นไปภายในสามวันสี่วันนี้ เดือนไฉไลทำท่าสาบานออกมา
เหมวันต์นิ่งไปเป็นครู่
เอาเถอะครับ ผมจะลองพิจารณาเรื่องนี้ดูอีกที พวกคุณสองพี่น้องอยู่คุยกันไปก่อน แล้วผมจะมาบอกว่าจะเอาไง
เขาลุกขึ้นยืน หันมาทางรามิล
เด็กหนุ่มทราบว่าเขาอยากจะคุยด้วย จึงได้เดินตามหลังไป ปล่อยให้สองสาวอยู่คุยกันตามลำพังสองต่อสอง
ตกลงนี่มันยังไงกัน? เหมวันต์ถาม
อ้าว! ไม่ดีหรือครับ? คุณปู่คุณย่าก็จะได้คืนดีกันเสียที ไม่มีอะไรติดค้างในใจอีกต่อไป รามิลตอบยิ้มๆ
เหมวันต์ขมวดคิ้ว
แกไปพูดกับเขายังไง? เขาถึงยอมพูดกับฉันขนาดนี้
รามิลยังยิ้มอยู่ในหน้า
ก็ไม่ยากอะไร ผมก็บอกไปว่าจะช่วยเขาให้ได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ถ้าเขามาสารภาพความจริงกับคุณปู่ของผม
เหมวันต์จ้องหน้าเขาอย่างสงสัยอยู่
แล้วเขาเชื่อแกง่ายๆขนาดนั้นเชียว
ก็ไม่ง่ายหรอก ผมต้องใช้วาทศิลป์ของผมเอง แถมเขาเองก็กำลังจนตรอกจริงๆ มีแต่ผมเท่านั้นที่ช่วยเขาได้ ผมบอกเขาว่า ถ้าเขายอมช่วยผมเอาสูตรยาอมตะมาได้ ผมก็จะช่วยเขาให้ได้ทุกอย่าง
แล้วแกจะเอาสูตรยาไปทำไม? ไหนว่าไม่อยากจะเป็นตัวประหลาดเหมือนฉันไงล่ะ
ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ผมกะจะเอาไปขายให้คนรวยๆสักหน่อย จะได้มีตังค์ใช้กะเขาบ้าง ผมอุตส่าห์ช่วยคุณปู่ถึงขนาดนี้แล้ว คุณปู่น่าจะตอบแทนผมบ้างนะ
นี่แกทำความดีเพื่อหวังผลตอบแทนงั้นเหรอ?
คุณปู่เห็นผมเป็นพวกบ้ารึไง ถ้าทำดีแล้วไม่ได้ดี ผมจะทำไปทำไมให้เมื่อยตุ้มล่ะ
เหมวันต์พยักหน้า
ก็ได้ แต่เวลาจะขาย ก็เลือกคนหน่อยล่ะ เดี๋ยวเดือดร้อนเข้าทีหลัง ฉันไม่รู้ด้วยนะ
รู้แล้วครับ ผมไม่โทษคุณปู่หรอก
แล้วเรื่องเดือนไฉไลจะเอาไง? ถ้าเขารู้ว่าโดนแกหลอกแบบนี้ มีหวังโกรธจนบ้านเปิงแน่
ผมไม่กลัวแม่นี่หรอก ก็ใครใช้ให้อยากโง่เองล่ะ แต่จะว่าผมหลอกก็ไม่เชิง ผมก็ช่วยให้เขาได้ทุกอย่างคืนจริงๆ คุณปู่ช่วยรีบพาเขากลับไปบ้าน แล้วบอกให้คุณชาติชายสอนลูกให้ดีๆหน่อย ว่าอย่าอวดดีกับคนอื่นให้มันมากนัก อีกหน่อยจะไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย
รามิลพูดเสียงฟังดูโกรธๆอยู่ ทำให้เหมวันต์รู้สึกสงสัยว่า เด็กหนุ่มคงจะโดนมาไม่น้อยทีเดียว
เข้าใจล่ะ แกก็อย่าไปถือเขาเลย ไงๆเขาก็เป็นผู้หญิงนะ
ก็เพราะเป็นผู้หญิงน่ะซี ถ้าเป็นผู้ชายหน่อย ผมได้ชกหน้าไปแล้ว
เหมวันต์จับไหล่เขาเหมือนจะช่วยปลอบ
ฉันจะรีบพาเขากลับไป เพราะงั้นวางใจได้ นั่งลงก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะจดสูตรยาให้
ครับ ขอบคุณ
รามิลนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม
เหมวันต์จดสูตรยาลงใส่กระดาษ ก่อนจะยื่นให้
รามิลยกมือไหว้เขา
ขอบคุณอีกครั้งครับ คุณปู่
ไม่เป็นไร ฉันสิต้องเป็นฝ่ายขอบใจแก ที่ช่วยเคลียร์ปัญหาหัวใจให้กับฉัน
รามิลยิ้มกว้าง
ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็อยากจะมีคุณย่าคนสวยกับเขาบ้างเหมือนกันนี่ ในโลกนี้มีใครที่โชคดีเท่ากับผมบ้าง
ฉันจะบอกคุณชาติชายให้ติดต่อกับแก คิดว่าเขาน่าจะเป็นลูกค้าที่ดีของแกนะ
งั้นผมก็ต้องขอบคุณคุณปู่อีกครั้งที่ช่วยหาลูกค้าให้
เหมวันต์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
รามิลเองก็ลุกขึ้น
ระเด่นมายืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
คุณรามิลทานอะไรมาหรือยังครับ? เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อเข้ามาให้เอง ชายชราถาม
เอาสิ ฉันเองก็ยังไม่ทันได้กินอะไรรองท้องมาเลย แต่ฉันไม่เอาพวกโจ๊กนะ ไม่ชอบ เอาเป็นข้าวสวยกับอะไรก็ได้แล้วกัน อ้อ ช่วยซื้อกาแฟเย็นมาด้วยก็ดี
ครับผม ระเด่นทำท่าค้อมศีรษะ ก่อนจะออกไป
งั้นแกก็อยู่นี่กินข้าวไป ส่วนฉันจะพาเดือนไฉไลไปส่งบ้าน
แล้วคุณย่าล่ะ? จะทิ้งให้อยู่นี่กับผมหรือ?
ใครว่า ฉันก็ต้องพาไปด้วยสิ
แล้วพากลับมาด้วยหรือเปล่า? รามิลถาม
เหมวันต์ยิ้ม
ก็ต้องพากลับมาอยู่แล้วล่ะนะ แต่คงต้องหลังฮันนีมูน
รามิลฟังแล้วยิ้มแฉ่ง
เดือนไฉไลก้มลงกราบเท้าบิดา ท่าทางเหมือนสิ้นฤทธิ์ไปเรียบร้อย
คุณพ่อคะ เดือนขอโทษ ยกโทษให้เดือนด้วย
ชาติชายยังหน้าตึงอยู่ เหมือนกับจะไม่มีวันยกโทษให้
คุณคะ ยกโทษให้ลูกเราเถอะค่ะ ยังไงแกก็เป็นลูกในไส้นะคะ ดาราสงสารลูก เข้ามากอดเดือนไฉไลอย่างปกป้อง
แต่ฉันลั่นปากไปต่อหน้าคนตั้งมากมาย จะให้ฉันกลืนน้ำลายตัวเองรึไง? ชาติชายพูดด้วยน้ำเสียงฟังหมางเมินอยู่
เดือนไฉไลร้องไห้สะอื้นซบอกมารดา
โธ่ คุณก็ อย่าทิฐิสิคะ นี่ลูกของเราเองนะคะ
แต่มันทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้าคนทั้งเมือง แถมก็ยังเกือบจะต้องถูกฆ่าอีก สูตรยาก็ถูกแย่งเอาไปจนได้
นี่คุณเห็นสูตรยาสำคัญกว่าลูกหรือคะ? ดาราชักจะไม่พอใจขึ้นมา
แล้วคุณไม่ได้อยากจะได้สูตรยาด้วยรึไง? ชาติชายย้อนถาม
ดาราสะอึกเล็กน้อย เพราะจริงๆเธอก็ยังอยากจะได้อยู่ แต่เรื่องนี้ไม่เห็นจะเกี่ยวกัน
คุณเหมวันต์ก็บอกแล้วนี่คะ ว่าถ้าอยากได้สูตรยาก็ให้เราลองไปติดต่อกับหลานชายของเขาที่ชื่อรามิลนั่นดู ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณยังจะตำหนิลูกไปทำไมอีก
ชาติชายทำท่าฮึดฮัดขัดใจอยู่
เอาล่ะ ก็ได้ ผมจะอนุญาตให้แกกลับมาอยู่ที่นี่ได้ตามเดิม แต่ถ้ายังมีเรื่องแบบนี้อีกล่ะก็ อย่าหาว่าผมใจร้ายล่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ เดือนสัญญาว่าจะทำตัวดีๆ ไม่ทำเหลวไหลอีกแล้ว เดือนไฉไลรีบให้สัญญา
เหมวันต์ขับรถพาฟ้ารุ่งมาตามทางเรื่อยๆ ท่าทางของเขาดูสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
แล้วเราจะไปไหนกันคะ? ฟ้ารุ่งถามอย่างอยากรู้
หัวหิน
ฟ้ารุ่งแทบไม่กระพริบตา
ผมลองคุยกับรามิล หมอนั่นเลยแนะให้มาหัวหิน เขาว่าถ้าจะมาฮันนีมูนก็ให้มาที่นี่ดีกว่า
อ้อ ฟ้ารุ่งหน้าแดงจัด
เหมวันต์ปรายตามองเธอยิ้มๆ
คิดไม่ถึงเลยว่า จะเกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมายขนาดนี้ ถ้าพี่สาวคุณไม่เข้ามายุ่ง ตั้งแต่คืนงานเต้นรำหนนั้นแล้วล่ะก็ ผมคงจะขอคุณแต่งงานไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ฟ้ารุ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
เรื่องที่คุณว่าอยากจะพูดกับฉัน คือเรื่องนี้เองหรือคะ?
ครับ ผมตั้งใจไว้งั้น แต่พอคิดว่าคุณกำลังหลอกผมอยู่ ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนกับคนใกล้ตายงั้นแหละ
แต่ตอนนั้นฉันเองก็ตั้งใจจะมาหลอกคุณจริงๆ ฉันคิดว่าคุณใจดำมาก ทั้งๆที่รู้ว่าคุณลุงกำลังป่วยหนัก คุณก็ยังไม่ยอมมอบสูตรยาให้อีก
งั้นเหรอ? เหมวันต์ไม่รู้ตัวมาก่อน
ตอนหลังฉันถึงรู้ตัวว่าโดนคุณลุงหลอก ที่ท่านทำไปก็เพราะแค่อยากจะได้สูตรยาเท่านั้น ความจริงฉันควรจะโกรธ แต่ท่านเองก็มีพระคุณที่เลี้ยงดูฉันมาหลังจากที่พ่อแม่เสียไป
เหมวันต์เข้าใจ
ช่างเถอะครับ เพราะสุดท้ายเราทุกคนก็ได้สมหวังตามที่ต้องการ คุณลุงของคุณป่านนี้คงจะติดต่อรามิลไปแล้วแน่ๆ
ฟ้ารุ่งเองก็เห็นด้วย
ชาติชายอยากจะได้สูตรยามาก คงจะไม่ยอมปล่อยให้พลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา ชายหนุ่มยกขึ้นแนบหู
ครับ ผมเหมวันต์พูด
คุณเหมวันต์ นี่ผมเองนะ ผมลองติดต่อหลานชายคุณแล้ว แต่เขาไม่ยอมรับสายเลย เสียงชาติชายดังมาตามสายฟังหงุดหงิดมาก แสดงว่าคงพยายามติดต่อหลายครั้งก็ไม่เจอ
เหมวันต์ขมวดคิ้ว
ครับ ผมเข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวผมจะช่วยเช็กดูให้เอง
รีบๆหน่อยนะครับ ชาติชายดูใจร้อน
ชายหนุ่มตัดสาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกสายรามิลแทน
แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับสาย
เหมวันต์นิ่วหน้า
ขอโทษด้วยนะครับ ฟ้ารุ่ง แต่เราคงต้องย้อนกลับไปบ้านดูหน่อยแล้ว คุณลุงคุณโทรมาบอกว่ารามิลไม่ยอมรับสาย ผมชักรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล
ฟ้ารุ่งอึ้งเล็กน้อย
ค่ะ เข้าใจแล้ว เรากลับไปดูหน่อยก็ดี คุณลุงคงจะไม่ยอมเลิกราแน่ ถ้ายังตามคุณรามิลไม่ได้
เหมวันต์เห็นด้วย
เขาขับรถกลับไปที่บ้าน
หนุ่มสาวเดินกลับเข้าไปข้างใน
ระเด่น เหมวันต์เรียก
แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่อยู่
เหมวันต์เดินไปห้องรับแขกกับห้องนั่งเล่นก็ไม่พบใคร
แต่พอเดินไปที่ห้องทานข้าว กลับพบรามิลนอนฟุบหน้าอยู่
รามิล! เขารีบเข้าไปเขย่าตัว รู้สึกตกใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว
เด็กหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย
ใคร?
ฉันเอง
รามิลทำท่ารู้สึกตัว
คุณปู่เหรอ? นี่ผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย?
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พอกลับมาก็เห็นนอนอยู่ตรงนี้แล้ว แล้วระเด่นไปไหน?
ระเด่น? ไม่รู้สิ จำได้ว่า ผมกำลังกินข้าวอยู่ แล้วจู่ๆก็รู้สึกง่วงยังไงไม่รู้ จากนั้นผมก็คงจะหลับไปเลยมั้ง
เหมวันต์นิ่ง
รามิล แล้วสูตรยาล่ะ? ยังอยู่หรือเปล่า?
สูตรยาเหรอ? รามิลหน้าซีด เขาควานหาทั่วตัวก็ไม่เห็น
คุณพระช่วย! ไม่มี มันหายไปแล้ว
เหมวันต์ถอนใจ
ระเด่นก็ไม่อยู่ สูตรยาก็หาย คงไม่ต้องสงสัยแล้ว
บ้าฉิบ! รามิลโมโหเดือด หมอนั่นคงจะใส่ยานอนหลับลงไปในอาหารแน่ๆเลย
ก็ยังดีที่ไม่ใช่ยาพิษ
รามิลหน้าเผือด
ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่ ผมต้องฆ่ามันแน่
ไม่เอาน่า ไหนๆก็เกิดขึ้นไปแล้ว เหมวันต์ปลอบเขา
แต่ผมเสียดายสูตรยา นึกว่างานนี้คงสบาย ต่อไปก็ไม่ต้องพึ่งคุณปู่อีกแล้ว
เอาเถอะ ไม่เป็นไร เรื่องนี้ฉันเองก็ผิดเหมือนกัน ไว้ฉันจะจดให้ใหม่ก็ได้ แต่คราวนี้ระวังให้มาก อย่าให้เป็นงี้อีก
ครับ ผมรับรอง ขอบคุณคุณปู่ครับ
home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
|