home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
๙
เหล่าสาวๆรีบออกมากางประตูเงินเป็นด่านแรก กั้นไม่ให้ขบวนเจ้าบ่าวผ่านเข้าบ้านไปได้โดยง่าย ต้องมีการต่อรองกันแทบแย่ กว่าเพื่อนเจ้าสาวทั้งหลายจะยินยอมปล่อยให้ผ่านไปได้โดยดี
ประตูที่สองนั้นเป็นประตูทอง กั้นอยู่ตรงทางขึ้นบันได เพื่อนเจ้าบ่าวต้องลับริมฝีปาก ใช้วาจาหว่านล้อมจนสำเร็จ
พอขึ้นไปชั้นบนได้แล้ว แทนที่ขบวนเจ้าบ่าวจะเลี้ยวไปยังห้องของเดือนไฉไล พวกเขากลับเดินไปทางห้องของฟ้ารุ่ง
เหล่าเพื่อนเจ้าสาวที่ยืนรอเตรียมกั้นประตูสุดท้ายต่างก็มีอาการฉงนฉงายแปลกใจไปตามๆกันหมด
นี่มันอะไรกัน? ทำไมเจ้าบ่าวถึงไปห้องนู้นล่ะ? มีคนหนึ่งถามอย่างสงสัยขึ้นมา
ที่หน้าห้องของฟ้ารุ่งเอง ก็มีเด็กหญิงตัวเล็กๆมาคอยยืนเกาะขากางเกงเจ้าบ่าวไว้ ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป
ดารายิ้ม เพราะเด็กๆเหล่านี้ เธอไปขอยืมตัวมาจากคนที่มาร่วมพิธีครั้งนี้ ซึ่งออกจะฉุกละหุกบ้าง แต่ก็ดูจะไปได้สวย
เหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวถึงกับอึกอัก เพราะประตูนี้ดูจะผ่านได้ยากยิ่งกว่าประตูไหนๆ สายตาของเด็กน้อยที่จ้องมองพวกเขาดูใสซื่อบริสุทธิ์เกินกว่าที่พวกเขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมได้
เอ้อ...หนู ขอพวกอาเข้าไปหน่อยได้ไหม? เพื่อนเจ้าบ่าวคนหนึ่งต่อรอง
เด็กๆส่ายหน้า เพราะถูกสอนมาเช่นนั้น
ไม่ได้ค่ะ ต้องมีเงินมาก่อน ถึงผ่านได้ เด็กคนหนึ่งตอบ
แล้วหนูจะเอาเท่าไหร่เหรอ? เหมวันต์ถาม
เก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทค่ะ
โห!? บรรดาเจ้าบ่าวถึงกับส่งเสียงฮือฮา
นี่หนู จะเอาไปทำไมตั้งเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าน่ะ หนูยังเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอ? รามิลก้มตัวลงถาม
เด็กหญิงไม่รู้จะตอบอย่างไร
เอางี้นะ หนูเป็นเด็กดีไม่ใช่เหรอ? ยอมให้พวกอาผ่านเข้าไปนะ นี่ก็ใกล้จะเลยเวลาฤกษ์แล้ว ถ้าไม่ทัน เดี๋ยวพวกอาก็เดือดร้อนแย่
เด็กหญิงพากันมองหน้ากันเอง
ก็ได้ค่ะ ในที่สุดพวกเด็กๆก็ใจอ่อน ยอมให้ผ่านไปโดยดี
ดังนั้น เจ้าบ่าวกับเพื่อนๆก็รีบเปิดประตูเข้าไปข้างใน
ฟ้ารุ่งเหลียวกลับมามอง และเห็นเหมวันต์ยืนมองยิ้มๆอยู่
ชายหนุ่มเดินเข้ามาจับมือเธอ
เย้! ได้ตัวเจ้าสาวแล้ว เสียงเพื่อนเจ้าบ่าวต่างก็กู่ร้องลั่น แบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว
คุณปู่ หอมแก้มคุณย่าให้พวกเราดูเป็นขวัญตาหน่อยครับ รามิลบอกเขา
เหมวันต์จึงก้มหน้าไปหอมแก้มหญิงสาว
จากนั้นดาราก็เข้ามาบอกให้ทุกคนรีบลงไป เพราะพระเริ่มออกมาบิณฑบาตแล้ว ให้หนุ่มสาวไปทำบุญตักบาตรตามพิธีโบราณ
ดังนั้นทุกคนจึงค่อยทยอยกันลงไป ไม่มีเวลาเล่นสนุกกันอีกแล้ว
เดือนไฉไลคุ้มคลั่ง ฉีกทึ้งเสื้อเจ้าสาวไม่หยุด
พี่เดือน! ดาวฉายตกใจมาก
เพื่อนๆของเธอเองก็พากันพูดไม่ออกไปตามกัน
นี่มันอะไรกัน? นี่มันอะไรกัน? ทำไมคนที่เป็นเจ้าสาวถึงได้กลายเป็นนังฟ้ารุ่งไปได้ เดือนไฉไลกรีดร้องด้วยความเจ็บแค้นจนแทบกระอักเลือด
ฉันจะฆ่ามัน! ฉันจะฆ่ามัน! เดือนไฉไลร้องไห้เสียงดัง
เดือน ใจเย็นๆก่อน เพื่อนคนหนึ่งพูดปลอบ
ทุกคนหลอกฉัน พวกแกเองก็หลอกฉัน เดือนไฉไลพาลเปะปะ
ไม่ใช่นะ พวกเราไม่รู้เรื่องจริงๆ มีคนรีบร้องบอก
ทำไมต้องหลอกฉันด้วย? ทุกคนเห็นฉันเป็นตัวตลกกันใช่ไหม?
ทุกคนพากันพูดไม่ออก ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
พี่เดือน คุณเหมวันต์เขาไม่เคยขอพี่แต่งงาน ดาวฉายจำต้องพูดออกมา
เดือนไฉไลจ้องหน้าเธอเขม็ง
เธอจะบอกว่าพี่คิดไปเองฝ่ายเดียวใช่ไหม?
ดาวฉายได้แต่ก้มหน้านิ่ง รู้สึกเสียใจแทนเธอ
เดือนไฉไลเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า รีบค้นหาเสื้อผ้าเป็นการใหญ่
พี่เดือนจะทำอะไรเหรอ? ดาวฉายชักสงสัย
เดือนไฉไลไม่ตอบ แต่หยิบชุดดำออกมา
เดือน จะทำอะไร คนโบราณเขาสั่งห้ามใส่ชุดดำในวันนี้นะ เพื่อนคนหนึ่งร้องบอกอย่างตกใจ เพราะนึกเดาได้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร
ฉันจะแต่ง ฉันจะใส่ไปงานมันให้ดู เดือนไฉไลบอก
ดาวฉายตกใจมาก เธอรีบออกจากห้อง เพื่อไปตามให้มารดามาช่วยห้าม เพราะตอนนี้คงจะไม่มีใครห้ามเดือนไฉไลได้อีก
ดารารีบร้อนตามดาวฉายไปที่ห้องของเดือนไฉไล เธอได้เรียกบ่าวไพร่ติดตามมาด้วยสองสามคน
เดือนไฉไลที่เปลี่ยนเป็นชุดดำเสร็จ ก็รีบออกจากห้อง โดยที่เพื่อนๆของเธอทัดทานไม่สำเร็จ
พอเธอเห็นมารดาเข้าก็ชะงัก
ดาราหันไปทางบ่าวไพร่
จับเดือนไฉไลไปขังในห้อง วันนี้ห้ามให้ออกมาแม้แต่ก้าวเดียว ดาราสั่ง
บ่าวไพร่พากันตกใจ แต่ก็รู้ตัวว่าไม่อาจขัดคำสั่งได้
คุณแม่! เดือนไฉไลไม่อยากจะเชื่อ ว่าเธอจะเข้าข้างฟ้ารุ่ง นี่คุณแม่เองก็คิดจะเข้าข้างนังฟ้ารุ่ง คุณแม่อยากจะได้สูตรยาอมตะมาก ถึงขนาดยอมให้ลูกสาวคนนี้ต้องอับอายขายหน้าคนอื่นๆทั้งเมือง และต้องอกหักผิดหวังเสียใจ เดือนคิดไม่ถึงเลยว่าคุณแม่จะเป็นคนโลภมากขนาดนี้ นี่คุณแม่ยังใช่แม่ของเดือนอยู่หรือเปล่า?
เพี๊ยะ!
ทุกคนต่างยืนนิ่ง เมื่อดาราตบหน้าลูกสาว
จะยังไงก็ตาม ฉันไม่มีวันปล่อยให้แกออกไปทำเรื่องขายหน้าอย่างเด็ดขาด แกควรสงบสติอยู่ในห้อง แล้วคิดดูให้ดีๆดีกว่า ไงๆคุณเหมวันต์เขาก็ไม่ได้อยากจะแต่งกับแก เขาอยากจะแต่งกับฟ้ารุ่งต่างหาก ไม่ใช่แก
ดาราพูดเสียงเฉียบอย่างน่ากลัวเป็นครั้งแรก
เดือนไฉไลยืนนิ่งโดยใช้มือข้างหนึ่งกุมแก้มที่ยังเจ็บชา เพราะถูกมารดาตบ ดาราเห็นสายตานั้นก็รู้สึกตัวว่าทำรุนแรงไปหน่อยแล้ว
โอ๋ ลูกเดือน เธอรีบเข้าไปโอบปลอบอย่างแม่ที่รักและเป็นห่วงลูก ลูกคงจะเจ็บซีนะ แต่แม่ยิ่งเจ็บกว่าลูก แม่เองก็ไม่ได้อยากจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ลูกลองนึกดูดีๆ ที่แม่ทำลงไปนี่ก็เพราะหวังดีกับลูกต่างหาก ถ้าลูกไปทำลายพิธีแต่งงานเสีย จนคุณพ่อไม่ได้สูตรยา ลูกก็คงจะต้องถูกคุณพ่อคัดชื่อออกจากพินัยกรรม สุดท้ายลูกเองก็จะไม่เหลืออะไรนะ แถมสูตรยาก็ไม่ได้ เราก็จะไม่สามารถมีชีวิตเป็นนิรันดร์ แล้วถ้าเกิดยายฟ้ามันหนีตามคุณเหมวันต์ไป แบบนี้เท่ากับเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนคอ นังนั่นมันก็สบายไป ได้ใช้ชีวิตเสวยสุขอยู่บนวิมานม่านเมฆ คุณเหมวันต์จะต้องให้สูตรยากับมันคนเดียว พวกเราก็ได้แต่เฝ้าดูมันมีความสุขไปกับคนที่มันรัก ไม่มีวันแก่เฒ่า แต่พวกเรากลับต้องแก่ตัวลงทุกวัน ลูกอยากจะให้มันเป็นอย่างงี้หรือจ้ะ
เดือนไฉไลนิ่ง ตอนนี้เธอเหมือนคนฟังหูซ้ายทะลุหูขวาไปแล้ว เธอไม่ยอมเข้าใจที่มารดาพูด
เข้าใจนะ ลูกเดือน แม่ทำก็เพราะรักลูก เราควรจะทำใจเย็นๆ รอให้งานเลี้ยงเสร็จสิ้นไปก่อน ให้คุณพ่อได้สูตรยามาเรียบร้อยแล้ว แล้วหลังจากนั้น ลูกจะทำอะไร คุณพ่อก็คงไม่ว่าอีกแล้วล่ะ เชื่อที่แม่พูดนะ กลับเข้าห้อง แล้ววันนี้ลูกก็ไม่ต้องไปไหน อยู่เฝ้าบ้านเฉยๆ แค่นั่งรอเงียบๆ แล้วทุกอย่างก็จะดีเองแหละ
ดาราเห็นอีกฝ่ายนิ่ง ก็คิดว่าทุกอย่างคงจะเรียบร้อย
เอาล่ะ พาเดือนไฉไลเข้าไปในห้องได้แล้ว ดาราสั่งทุกคน
ดาวฉายและเพื่อนๆต่างก็ช่วยกันเข้ามาลากหญิงสาวกลับเข้าห้อง ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของดารา
หลังจากนั้น ดาราก็รีบร้อนลงมาขึ้นรถที่จอดอยู่ ชาติชายมีอาการหงุดหงิดที่ต้องนั่งรอนาน
มัวไปทำอะไรอยู่ รถบ่าวสาวออกไปตั้งนานแล้วนะ ไม่อยากจะไปนักหรือไง? ชาติชายดูหัวเสียขึ้นมา เขาอยากจะรีบไปให้ถึงโรงแรมที่จัดงานเร็วๆ
ขอโทษด้วยค่ะ คือฉันทำตุ้มหูหล่นหาย ก็เลยต้องเสียเวลาหาค่ะ ดารารีบแก้ตัว เธอไม่อยากให้ชาติชายระแคะระคายเรื่องที่เดือนไฉไลอาละวาด คิดจะทำลายพิธีแต่งงาน ถึงอย่างไรเดือนไฉไลก็ยังเป็นลูกของเธออยู่ดี
เอาเถอะ เรื่องนั้นช่างมัน ออกรถได้แล้ว ชาติชายหันไปสั่งคนขับรถโดยไม่สนใจ
พวกเขาไปเกือบจะไม่ทันฤกษ์สวมแหวน บ่าวสาวนั่งรออยู่บนพื้นพรมในห้องเล็กๆที่ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีอย่างสงบ โดยมีแขกเหรื่อมารอเฝ้าดูอย่างตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
ไม่มีใครบ่นว่าที่พวกเขาเกือบมาไม่ทัน สองสามีภรรยาสูงวัยรีบไปนั่งที่โซฟา เพื่อทำหน้าที่เป็นญาติผู้ใหญ่ให้ทั้งสอง
คนของโรงแรมให้สัญญาณกับเหมวันต์ทันทีที่ได้เวลาฤกษ์ ดังนั้นเหมวันต์จึงนำแหวนออกมา และบรรจงสวมใส่เข้ากับนิ้วนางมือซ้ายของเจ้าสาวของเขา
ฟ้ารุ่งได้รับการแนะนำจากพี่เลี้ยงที่เป็นคนของโรงแรมจัดเตรียมไว้ เธอจึงกระพุ่มมือไหว้ชายหนุ่มอย่างงดงาม ขณะที่แสงไฟแฟลชสว่างวาบตามไปด้วย ช่างกล้องคอยทำหน้าที่เก็บภาพสำคัญๆไว้ทุกวินาที มีการถ่ายวีดีโอเอาไว้อีกด้วย
ฟ้ารุ่งสวมแหวนให้กับเขาโดยไม่ปริปาก ถึงตอนนี้เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้ว่า เธอกำลังเข้าพิธีแต่งงานอยู่กับเหมวันต์
หลังจากสวมแหวนแต่งงาน ก็เป็นการจดทะเบียนสมรส โดยมีชาติชายและดาราเป็นสักขีพยาน จากนั้นเหมวันต์ก็ทำตามสัญญา นำซองที่จดสูตรยาใส่กระดาษสอดเก็บไว้ข้างในนั้นยื่นให้กับชาติชาย
ชายกลางคนเองก็รีบรับมาโดยไม่พูดมาก ก่อนเก็บเข้าใส่กระเป๋าเสื้อของตนอย่างรวดเร็ว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้น
คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก แต่ก็มีบางคนที่ดูสงสัย อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร บางคนเดาไปเองว่าคงจะเป็นเช็กเงินสดค่าสินสอดทองหมั้นด้วยซ้ำ ตอนหลังยังมีคนมากระซิบถามล้อๆชาติชายว่าได้มาเท่าไหร่
ชาติชายดูจะอมพนำไม่ยอมบอกอะไรใคร ปล่อยให้คนคิดกันเอาเอง แต่เขากำลังมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
พี่เลี้ยงของเจ้าสาวรีบพาเจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดเสียใหม่ ตามที่ได้มีการจัดไว้แล้ว เพราะชุดของเธอยังดูไม่ค่อยสมกับเป็นชุดเจ้าสาวเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่มีใครสงสัยเรื่องนี้สักคน
อย่า! เดือน! เธอจะทำอะไร?
เพื่อนๆของเดือนไฉไลพากันตื่นตระหนก เมื่อเธอคว้าปืนออกมาข่มขู่
ถอยไป ไม่งั้นฉันจะยิงพวกเธอด้วย
ทุกคนกลัวจึงรีบถอยหนี
พี่เดือน! ดาวฉายเรียกเธออย่างตื่นกลัว
ดาวฉาย ถ้าเธอยังเป็นน้องฉันอยู่ล่ะก็ รีบเปลี่ยนเป็นชุดดำ แล้วตามฉันไปที่งานของพวกมัน เดือนไฉไลหันมาพูด
ดาวฉายได้แต่จ้องเธอนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เหมวันต์พยายามจะเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อเจ้าสาว แต่ทว่าพี่เลี้ยงกลับเข้ามาขวาง
ไม่ได้นะคะ ผู้ชายห้ามเข้าเป็นอันขาด ถึงเป็นเจ้าบ่าวก็ไม่ได้
แต่ฟ้ารุ่งกลับลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ใช้สำหรับแต่งหน้า
ไม่เป็นไรค่ะ ให้เขาเข้ามาเถอะ ฉันเองก็มีเรื่องอยากจะพูดกับเขาตามลำพังอยู่พอดี
พี่เลี้ยงและช่างแต่งหน้าทำท่าเข้าใจ จึงได้พากันออกมายืนรอหน้าห้อง
เหมวันต์ปิดประตูลง เพราะทราบดีว่าเรื่องที่จะคุยกันนี้ คงจะให้คนนอกฟังไม่ได้
คุณเหมวันต์คะ นี่มันเรื่องอะไร? ฟ้ารุ่งต่อว่าเขา
ชายหนุ่มกลั้นยิ้มขำเธอเต็มที่
ก็เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? วันนี้เราสองคนกำลังแต่งงานกันไงล่ะ เขาตอบหน้าตายสนิท
หญิงสาวอยากจะหยิกเขาให้เนื้อเขียว
คุณนี่ร้ายจริงๆ ร่วมมือกันกับคุณลุงหลอกพวกเราเสียสนิทเลย แบบนี้พี่เดือนก็น่าสงสารแย่
เหมวันต์ทำหน้าขรึม
ผมก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้น แต่ผมห่วงคุณ ถ้าหากผมขอคุณแต่งงานตรงๆ พี่สาวคุณจะทำอะไรคุณบ้างก็ไม่รู้ ผมถึงต้องใช้วิธีนี้
ฟ้ารุ่งได้แต่นิ่งเงียบ
นี่ก็ถือเป็นการสั่งสอนพี่สาวคุณด้วย ถ้าเขาไม่ร้ายกับคุณก่อน เขาก็ไม่ต้องมาลงเอยในสภาพแบบนี้หรอก จะว่าไปเขาทำตัวของเขาเอง เขารู้ดีอยู่แล้วว่า คนที่ผมรักคือคุณต่างหาก
คุณเหมวันต์ ฟ้ารุ่งไม่รู้จะพูดอะไรดี ทั้งดีใจที่เขาเองก็รักเธอเช่นกัน แต่ก็อดรู้สึกผิดต่อเดือนไฉไลไม่ได้ด้วย
คนส่วนใหญ่เขารู้กันอยู่แล้วว่าผมจะแต่งงานกับคุณ ไม่มีใครคิดว่าผมจะแต่งงานกับคุณเดือนไฉไล ตอนที่ผมแจกการ์ดออกไป ผมก็ใส่แค่ชื่อคุณกับผม ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก ผมไม่เคยคิดที่จะหักหน้าพี่สาวคุณหรอกนะ เพราะงั้นคุณก็ไม่ต้องกลัวว่า พี่สาวคุณจะถูกคนทั้งเมืองหัวเราะเยาะเห็นเป็นเรื่องตลกไป คุณวางใจเรื่องนี้ได้ เรื่องร้ายกาจแบบนั้น ผมไม่มีวันทำหรอกครับ
ฟ้ารุ่งทำท่าเข้าใจ
ค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ยังช่วยไว้หน้าพี่เดือน
เหมวันต์ยิ้ม เขาเดินเข้ามาจับไหล่ของเธอ
เดือนไฉไลเป็นพี่สาวคุณ ผมก็ต้องให้เกียรติ์เธอน่ะซี ถึงผมจะหมั่นไส้ที่เขาร้ายกาจกับคุณแค่ไหนก็ตาม
ฟ้ารุ่งเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา
นี่คุณกำลังทำตัวปกป้องฉันอยู่ใช่ไหมคะ?
ครับ ผมคิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยคุณหลุดพ้นจากอำนาจของพวกพี่น้องจอมเจ้าเล่ห์ของคุณได้ เมื่อคุณกลายเป็นภรรยาของผมแล้ว พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวคุณอีกต่อไป
ฟ้ารุ่งเอียงหน้าลงแนบกับอกกว้างนั้น
ฉันรู้สึกเหมือนกับฝันไปจริงๆ นึกว่าคุณจะแต่งงานกับพี่เดือนเสียอีก คุณทำเอาฉันใจเสียหมด เธอพูดเหมือนจะต่อว่าเขาอยู่นิดๆ
เหมวันต์ยิ้ม กอดเธอไว้แน่นเล็กน้อย ถือเป็นการปลอบขวัญเธอไปด้วย
ผมยอมทำทุกอย่างได้เพื่อคุณ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความรักที่ผมมีต่อคุณ ผมจึงได้ยอมมอบสูตรยาอมตะให้กับคุณชาติชายไป
ฟ้ารุ่งเงยหน้ามองเขา รู้สึกไม่สบายใจ
จะดีหรือคะ? คุณเคยบอกไว้ว่า จะมอบสูตรยาให้กับคนที่คุณเชื่อใจเท่านั้น
เขายิ้ม
ผมเชื่อใจคุณ ผมจึงมอบมันให้คุณลุงของคุณ มันก็ไม่ต่างกันหรอกครับ
ฟ้ารุ่งใช้มือโอบรอบคอเขา
คุณกำลังทำให้ฉันรู้สึกตัวเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด
เหมวันต์ยิ้ม
เขาทำท่าก้มหน้าต่ำลงมาเพื่อจะจุมพิตริมฝีปากนั้น
เสียงเคาะประตูเบาๆขัดจังหวะเสียก่อน
เหมวันต์รู้สึกเสียดาย
สงสัยพวกพี่เลี้ยงคงจะกลัวผมปล้ำคุณในนี้มั้ง
ฟ้ารุ่งกลั้นหัวเราะคิก รู้สึกเขินอายระคนมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ชายหนุ่มไปเปิดประตู และพบว่าผู้จัดการโรงแรมมายืนตีหน้าเคร่งอยู่
ผมขอเวลาสักครู่ได้ไหมครับ? เขาถามเสียงสุภาพ
เหมวันต์สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เดินตามหลังของเขาไปโดยไม่พูดมาก
พอถึงบริเวณที่ไม่มีใครแล้ว ผู้จัดการจึงหันมาบอกให้ทราบโดยไม่อ้อมค้อม
เมื่อสักครู่นี้...เราได้รับการติดต่อมาว่า คุณเดือนไฉไลกำลังมุ่งตรงมาที่นี่ พร้อมด้วยปืนหนึ่งกระบอก
เหมวันต์จ้องหน้าเขา
แล้วเราควรจะทำยังไง? คุณมีมาตรการในการป้องกันหรือเปล่า? ผมเป็นห่วงฟ้ารุ่ง เดือนไฉไลอาจวู่วามทำร้ายเธอก็ได้
ครับ เราจะให้เจ้าหน้าที่ทุกคนคอยระวังไว้ ถ้าเราเห็นมีผู้หญิงสวมชุดดำเข้ามา เราจะเข้าทำการขัดขวางไม่ให้เขาเข้าไปข้างในได้ และเราจะรีบติดต่อพวกคุณทันที ผมคิดว่าถ้าให้คุณชาติชายกับคุณดาราช่วยเกลี้ยกล่อม เรื่องอาจจะจบลงด้วยดี
แต่เหมวันต์ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องจะจบลงง่ายๆ
จะยังไงก็ตาม ผมไม่อยากให้เดือนไฉไลเจอกับฟ้ารุ่งในตอนนี้ ผมอยากให้เรื่องจบลงอย่างเงียบๆ ไม่อยากให้ใครรู้
ครับ ผมเข้าใจ พวกผมจะพยายามเต็มที่ ผู้จัดการรีบรับรอง
เหมวันต์ไปบอกเรื่องนี้ให้ชาติชายกับดารารู้ตัวไว้ ชาติชายหน้าเครียดจนเห็นได้ชัด เขาปรึกษากับลูกชายของเขาว่าจะเอาไงดี
ภัทรพลจึงอาสาจะออกไปดูต้นทางให้ และจะพยายามไม่ให้เดือนไฉไลเข้ามาได้ ทุกคนเห็นด้วย จึงปล่อยให้เขาออกไปรอข้างนอก
เหมวันต์ตีหน้ายิ้มๆรับแขก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเจ้าสาวออกมาแล้ว พวกเขาก็เตรียมไปนั่งที่รอรดน้ำสังข์
เดือนไฉไลมาถึงโดยมีดาวฉายตามหลังมา พวกเธอได้เจอภัทรพลที่หน้าทางเข้าพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่มีการเตรียมระวังตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เดือน เธอกลับบ้านไปดีกว่า อย่าทำให้คุณพ่อคุณแม่โกรธมากไปกว่านี้ ถ้าเธอต้องถูกตัดชื่อออกจากพินัยกรรมแล้วล่ะก็ เธอก็จะไม่เหลืออะไรอีกนะ ภัทรพลบอกกับเธอ
หลีกไป! พี่ภัท! เดือนไฉไลสั่ง
ภัทรพลยืนนิ่งอยู่กับที่ ทำท่าไม่ยอมหลีกทางให้
เดือนไฉไลควักปืนออกมาจากกระเป๋าถือ
ถ้าพี่ไม่หลีก ฉันยิงพี่จริงๆด้วย
เธอกล้าหรือ? ภัทรพลถาม ยังไม่เชื่อว่าเดือนไฉไลจะกล้ายิงเขาจริงๆ
วูบหนึ่งที่เธอมีสีหน้าเหมือนกำลังลำบากใจ แต่มันเดี๋ยวเดียวเท่านั้น สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปดูแข็งกระด้าง
จะลองดูหน่อยไหมล่ะ? เธอทำท่าเล็งปืนมาที่เขา
ภัทรพลเห็นท่าทางเอาจริงของเธอแล้ว ก็รู้ตัวว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุยกันตอนนี้ คงจะต้องหาทางแย่งปืนมาให้ได้เท่านั้น
เขาทำท่าหลีกทางให้เธอไปก่อน เพื่อรอจังหวะเหมาะที่จะแย่งปืนมา
แต่เดือนไฉไลดูระวังตัว เธอไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ได้ง่ายๆ
ดาวฉายตามเธอเข้ามาติดๆ ส่วนภัทรพลกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็ตามเข้ามาอย่างระแวดระวังเต็มที่ ทุกคนต่างคิดว่าจะต้องหาโอกาสที่เธอเผลอแย่งปืนมาให้ได้
เดือนไฉไลเดินเข้ามาในห้องที่ใช้จัดงาน ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้มีเกียรติ์ทั้งหลายที่มาร่วมงานนี้
นี่มันอะไรกัน? มีเสียงร้องอย่างตกอกตกใจ
ชาติชายหน้าบึ้งสนิท เขาเดินตรงเข้ามาหาเดือนไฉไลทันที
หยุดนะ! เดือนไฉไล ลูกคิดจะทำอะไรกันแน่?
เดือนไฉไลหัวเราะออกมา
ก็มาช่วยเปิดโปงความจริงเบื้องหลังการแต่งงานครั้งนี้ให้ทุกคนรับรู้ไว้น่ะซี
ทุกคนพากันเงียบกริบไปกันหมด เมื่อได้ยินเธอพูด
ทุกท่าน! ฟังทางนี้! พวกคุณทุกคนกำลังถูกหลอกอยู่ คุณเห็นผู้ชายคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วใช่ไหม? เดือนไฉไลชี้ปืนมาที่เหมวันต์ที่นั่งอยู่ตรงแท่นที่จะต้องใช้รดน้ำสังข์
คนอื่นๆดูจะงุนงงไปกันหมด ไม่เข้าใจว่าเธอจะพูดอะไรกันแน่
พวกคุณคงจะคิดล่ะสิ ว่าคู่แต่งงานคู่นี้ดูเหมาะสมกันดังกิ่งทองใบหยก แต่หารู้ไม่ว่า ไอ้ผู้ชายคนนี้มันก็แค่จำพวกโคแก่ที่ริเล็มหญ้าอ่อนๆ เห็นหน้าตามันแบบนี้ก็เถอะ แต่พวกคุณรู้ถึงอายุจริงของเขาหรือเปล่า พวกคุณอยากจะรู้มั้ย ผู้ชายคนนี้อายุเท่าไหร่กันแน่
เหมวันต์หน้าเผือดเล็กน้อย เขารู้สึกมือเย็นไปหมดจนแทบขยับไม่ได้
เดือนไฉไล ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะให้ตำรวจมาลากคอแกเข้าตะราง ฐานมารบกวนก่อความวุ่นวาย ชาติชายรีบพูดขึ้นมา ก่อนเธอจะพูดมากกว่านี้
เดือนไฉไลชะงักเล็กน้อย
คุณพ่ออยากจะได้สูตรยาอมตะมาก จนถึงขนาดคิดจะจับลูกสาวแท้ๆเข้าตะรางงั้นหรือคะ? เธอถามอย่างคนเลือดเข้าตาขึ้นมา
มีเสียงซุบซิบดังขึ้นมาในบรรดาแขกที่มาในงาน
ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม? พ่อของฉันต้องการสูตรยาที่จะช่วยให้ตัวเองไม่แก่ไม่ตายมาก จนถึงกับคิดจะโยนลูกสาวตัวเองเข้าตะราง นี่แหละค่ะ ธาตุแท้ของเขาเองแหละ เดือนไฉไลประกาศให้ทุกคนได้ยินทั่วกัน
สูตรยาอมตะเหรอ? มีคนพูดขึ้นมา ท่าทางดูเหมือนจะสนใจอย่างมาก
ใช่ สูตรยาอมตะ ที่ช่วยรักษาความหนุ่มสาวให้คงยาวออกไป เหมือนกับที่ผู้ชายคนนั้นช่วยให้ตัวเองคงความหนุ่มแน่นมาได้จนทุกวันนี้ยังไงล่ะ
เสียงซุบซิบดังขึ้นมาอีก บางคนก็ดูจะสนใจ แต่บางคนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะฟังดูแล้วเป็นเรื่องงมงายที่สุด
คุณพ่อฉันอยากจะได้สูตรยานั้นบ้าง จึงได้ส่งหลานสาวไปเป็นเหยื่อล่อผู้ชายคนนี้ คุณเหมวันต์ คุณคิดจริงๆหรือว่าฟ้ารุ่งจะรักคุณจริงๆ เขาก็แค่อยากจะได้สูตรยาอมะตะเหมือนกันนั่นแหละ
home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
|