home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
๕
ก่อนจะถึงเย็นวันเสาร์ ฟ้ารุ่งแวะไปที่ตลาดเพื่อซื้อของเตรียมพร้อม และเธอต้องการจะถือโอกาสสืบข่าวดูด้วย ดังนั้น เธอจึงได้แอบไปเพียงแค่ลำพัง
ดูเหมือนคนอื่นๆจะจำเธอได้หมด เพราะเธอเคยเดินมาพร้อมเหมวันต์ด้วยกันอย่างโจ่งแจ้ง แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ
ฟ้ารุ่งกำลังมองหาว่าควรจะซื้ออะไรกลับไปดี
...เอ้อ... จู่ๆก็มีเสียงพูดอึกอัก ทำให้เธอต้องเหลียวหลังกลับไป
เด็กสาวสามคนกำลังยืนจ้องมองเธอกันตาปริบๆ เพราะผู้หญิงสาวชาวกรุงคนนี้ดูจะสวยไม่ใช่เล่น เหมือนพวกดารานางแบบไม่มีผิด
ฟ้ารุ่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
มีอะไรหรือจ๊ะ?
ทั้งสามคนหันมามองหน้ากันเอง เมื่อเห็นเธอพูดด้วย
คุณคือคนที่เดินมากับคุณเหมวันต์วันนั้นใช่ไหมคะ? คุณกับเขาเป็นอะไรกันหรือคะ? เด็กสาวคนหนึ่งทำใจกล้าถามเธอออกไป
ก็...ไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะจริงๆเราเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานเอง คุณเหมวันต์เขาเข้ามาช่วยฉันตอนที่ประสบอุบัติเหตุน่ะ ฟ้ารุ่งจำต้องชี้แจงให้หายข้องใจ
ว้าว! งั้นจริงๆเขาก็เป็นคนใจดีมากน่ะซี พวกเราเคยหลงนึกว่าเขาเป็นคนน่ากลัวมากเสียอีก ก็เขาไม่เคยสุงสิงกับใครเลยนี่นา เด็กสาวอีกคนพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นมาก
จริงด้วย แต่เขาเองก็ดูหล่อมากนะ ฉันเคยแอบมองดูเขาไกลๆอยู่บ่อยๆ แต่ยิ่งเห็นใกล้ๆแบบนี้ ยิ่งดูหล่อมากเลย ฉันรู้สึกชักอยากจะเป็นคุณผู้หญิงของคฤหาสน์แดงเสียแล้วซี งานเต้นรำปีนี้ ถ้าเกิดว่าเขามาด้วยก็ดีซี บางทีฉันอาจจะโชคดีได้มีโอกาสเต้นรำกับเขาบ้างก็ได้
อีกสองคนก็ทำท่าเคลิ้มฝันตามไปด้วย ท่าทางดูเหมือนจะตกหลุมรักชายหนุ่มกันไปหมดเสียแล้ว
ฟ้ารุ่งเห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
แต่ฉันว่าพวกเธออย่าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่านะ เธอทำท่าเตือนเด็กสาวพวกนั้นอย่างหวังดีและเป็นห่วง
เอ๊ะ? ทำไมหรือคะ? มีคนถามอย่างสงสัย
ทั้งสามเองต่างก็จ้องมองเธออย่างแปลกใจมาก
นี่เป็นความลับนะจ๊ะ คุณเหมวันต์น่ะ เห็นเขาเป็นแบบนั้นก็เถอะ แต่ฉันรู้ดี ปรกติแล้ว เขามักจะชอบดื่มเลือดแทนน้ำ และกินตับไตไส้พุงเป็นอาหารมื้อดึกน่ะซีจ๊ะ
ทุกคนเงียบกริบ พากันจ้องเธอตาเป๋งอยู่เป็นครู่
...เอ้อ...พวกหนูขอตัวก่อนค่ะ ยังมีงานต้องไปทำต่อ
แล้วเด็กสาวทั้งสามก็พากันรีบสลายโต๋ไปอย่างรวดเร็ว
ดี สม หญิงสาวแลบลิ้น
อ้อ ปรกติหมอนั่นชอบของแบบนั้นงั้นเหรอ? งั้นพี่ก็คงทำใจลำบากที่จะต้องรับมันมาเป็นน้องเขยล่ะนะ จู่ๆก็มีเสียงพูดดังขึ้นมาใกล้ๆ
ฟ้ารุ่งหันขวับกลับไปโดยเร็ว
พี่ภัท! เธอไม่อยากเชื่อตาตัวเอง
ภัทรพลมองเธอยิ้มๆอย่างเห็นขันหน่อยๆ
เราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่า ตรงนี้มันค่อนข้างสะดุดตาไปหน่อย
ภัทรพลล้วงกระเป๋าหยิบแว่นตาดำออกมาสวม ก็เพื่อปกปิดอำพรางฐานะ
เขาเดินนำไปก่อน แล้วฟ้ารุ่งก็รีบตามหลังไปติดๆ
พี่มาดูลาดเลาน่ะ อยากจะรู้ว่าเธอกับหมอนั่นไปกันถึงไหนแล้ว มันมีบอกอะไรกับเธอบ้างหรือเปล่า? เกี่ยวกับสูตรยาอมตะน่ะ ภัทรพลไม่อ้อมค้อม เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลามากนัก
ฟ้ารุ่งถอนใจเล็กน้อย
ไม่เลยค่ะ เขาไม่ยอมบอกสูตรยาให้ฟ้าทราบ อ้างว่า ถ้าไม่ใช่คนที่ไว้เนื้อเชื่อใจ เขาจะไม่ยอมบอกเด็ดขาด
แปลว่า...แม้แต่เธอ เขาก็ยังไม่ไว้ใจงั้นเหรอ? ภัทรพลแทบไม่อยากเชื่อ
ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เขาบอกว่าจะบอกเหมือนกัน แต่ก็อยากจะรอดูใจไปก่อน อย่างน้อยสักปีหรือสองปี
ตั้งปีหรือสองปีเชียว แต่อาการคุณพ่อน่ะรอได้ไม่ถึงสองปีหรอกนะ แค่เดือนเดียวจะไหวหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ฟ้ารุ่งหน้าซีด เมื่อคิดถึงอาการของชาติชายขึ้นมา
ฟ้าก็พยายามเต็มที่ แต่จะไปเร่งเขาก็ไม่ดี เดี๋ยวเขาจะสงสัยเอา
เธอจะต้องทำให้หมอนั่นไว้ใจเธอให้ได้โดยเร็วที่สุด
ฟ้ารุ่งอึ้ง
งั้นก็เหลือเพียงแค่ทางเดียว คือฟ้าต้องรีบแต่งงานกับเขา เพราะเขาตั้งใจจะบอกกับภรรยาของเขาคนเดียวเท่านั้น
ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ? ภัทรพลยังไม่อยากปักใจเชื่อ
ฟ้ารุ่งส่ายหน้า
เขาบอกว่า เขาเคยรับปากกับอาของเขาก่อนตาย จะไม่ให้สูตรยาตกไปอยู่ในมือคนชั่วเด็ดขาด คุณเหมวันต์ดูระวังตัวมาก เขาไม่ค่อยยอมไว้ใจใคร ไม่ยอมคบค้าสมาคมกับใคร จนเกิดเป็นข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับตัวเขาไปต่างๆนาๆ
ที่ว่า...ชอบดื่มเลือดแทนน้ำ และกินตับไตไส้พุงเป็นอาหารมื้อดึกซีนะ?
ค่ะ ก็ทำนองนั้น
ให้มันได้อย่างงี้สิ ขืนรอเฉยๆ มีหวังคุณพ่อพี่คงได้ขึ้นสวรรค์ไปก่อนแน่
ฟ้าจะพยายามค่ะ เย็นวันเสาร์นี้...ฟ้าเองก็ตั้งใจว่าจะไปงานเต้นรำกับเขา ฟ้าคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสก็ได้
งั้นเหรอ? ก็ดีนี่ งั้นพี่ไปด้วยดีกว่า เผื่อว่าจะช่วยเธอได้อีกแรง
แต่ถ้าพี่ภัทจะไป ก็ต้องอย่าพยายามพูดอะไรกับฟ้านะคะ เพราะคุณเหมวันต์ไม่รู้ว่าฟ้ากับพี่ภัทรู้จักกัน
รู้แล้วน่า ภัทรพลพูด
แล้วงานนี้เขาก็ไปกันเป็นคู่ พี่ภัทจะพาใครไปหรือคะ? ฟ้ารุ่งอยากรู้
ภัทรพลขมวดคิ้ว
ยังไม่รู้เลย ไงๆก็คงต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่พูดมาก ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักกับฟ้าเลยก็ดี จะได้ไม่เผลอปากอะไรออกไป
จะยังไงก็เถอะ พี่ภัทกลับไปก่อนดีกว่า ฟ้ายังต้องซื้อของกลับไปอีก ถ้าช้ามาก เกิดคุณเหมวันต์มา เขาจะสงสัยกันพอดี
ภัทรพลเข้าใจ จึงไม่คิดจะขัดขวางเธอ
ฟ้ารุ่งรีบกลับไปที่ตลาดโดยเร็ว
ภัทรพลขับรถกลับบ้าน พอจอดรถแล้ว เขาก็เดินจะเข้าบ้าน แล้วพบว่าดารารออยู่พร้อมกับสีหน้าหงิกงอ
ไปหาแม่นั่นมาอีกล่ะซี เธอพูดด้วยน้ำเสียงขวางๆจนเห็นได้ชัด
ภัทรพลรู้ว่า แม่นั่นที่มารดาของเขาพูดถึงนั้นหมายถึงใคร
คุณแม่ครับ ผมมีธุระจำเป็นต้องไปคุยกับฟ้ารุ่งนะครับ ไม่ใช่ไปเพราะพิศสวาทอะไรเขาหรอก
แน่เหรอ? ดาราทำท่าไม่เชื่อ
ภัทรพลถอนใจ ไม่รู้จะพูดยังไงอีก
แล้วธุระจำเป็นของแกน่ะ? มันธุระอะไรไม่ทราบ? หมู่นี้แกกับพ่อแกดูจะสุมหัวปิดบังอะไรฉันอยู่ใช่มั้ยยะ?
ภัทรพลเห็นบิดากำลังเดินมาพอดี
ลองถามคุณพ่อเองดูดีกว่ามั้งครับ ชายหนุ่มพูด
ดาราจึงหันกลับไปเห็นชาติชาย
มีอะไรหรือคุณ? ชาติชายดูสงสัยขึ้นมา
ก็เรื่องฟ้ารุ่งน่ะซีครับ คุณพ่อ คุณแม่ยังไม่เลิกระแวงสงสัยผมกับฟ้ารุ่งเสียที ภัทรพลรีบฟ้องเขา
ไม่เอาน่า ดารา เจ้าภัทมันไปหาฟ้ารุ่ง ก็เป็นคำสั่งผมเองต่างหาก ชาติชายพูดปลอบภรรยา
คำสั่งคุณงั้นเหรอ? ดาราแทบไม่เชื่อหู
ชาติชายยิ้มให้เธอเหมือนเอาใจ
ที่จริง...ผมกะจะปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน รอจนงานสำเร็จแล้วเมื่อไหร่ ผมก็จะบอกคุณเป็นคนแรก
ดาราจ้องเขาอย่างระแวงแคลงใจมากขึ้น เพราะท่าทางแบบนี้จะต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ
คุณพูดมาให้เคลียร์ไปเลยนะ ถ้าหากคุณทำให้ฉันหายแคลงใจไม่ได้ คืนนี้คุณก็ไม่ต้องไปนอนที่ห้อง
ชาติชายทำหน้าพะอืดพะอมเล็กน้อย แต่ก็จำต้องปั้นหน้าแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง
อะไรนะ? ยาอมตะงั้นเหรอ? ดาราแทบไม่เชื่อหูตนเอง
ชาติชายยิ้มให้เธอ
ใช่แล้ว ที่ผมเรียกยายฟ้ากลับมา ก็เพราะจะให้ยายฟ้าช่วยเป็นนกต่อ หลอกให้นายเหมวันต์บอกสูตรยาออกมา ถ้าได้สูตรยานี้มา ทั้งคุณและผมก็จะมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีวันแก่เฒ่า คุณว่าแบบนี้ไม่ดีหรือไง?
ดาราไม่คิดว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี เพียงแต่เธอยังไม่อยากจะเชื่อเท่านั้น เพราะมันฟังดูเหลวไหลสิ้นดี
คุณพูดจริงหรือ? ไม่ได้กำลังปั้นเรื่องหลอกฉันอยู่ใช่มั้ย?
โธ่ ผมจะหลอกคุณไปทำไม? แล้วอีกหน่อยพอคุณได้เห็นยานั่นแล้ว คุณก็จะเข้าใจทุกอย่างไปเอง
ดาราอึ้งไปเล็กน้อย
คุณพ่อไม่ได้โกหกนะครับ คุณแม่ เชื่อที่พวกเราพูดเถอะครับ ภัทรพลช่วยยืนยันคำพูดของบิดา
ได้ฟังคำพูดหนักแน่นของลูกชายแล้ว ดาราก็จำต้องเชื่อ
ก็ได้ แม่จะเชื่อ แต่ถ้าหากจับได้ว่าเป็นเรื่องหลอกกันเล่นล่ะก็ อย่าคิดว่าเรื่องจะจบง่ายๆนะ เธอยังไม่วายพูดขู่ไว้
ภัทรพลยักไหล่ เพราะเขาไม่เคยกลัวคำขู่ของเธอเลยสักนิด
ถ้าเป็นเรื่องจริงอย่างที่คุณเล่ามา งั้นก็วิเศษไปเลย ฉันจะได้กลับมาเป็นสาวอีกครั้ง กลายเป็นสาวสองพันปีที่ใครๆก็ต้องพากันอิจฉาจนแทบน้ำลายหก ดาราคิดแล้วก็รู้สึกยินดีมากที่ได้รู้ถึงเรื่องนี้
ชาติชายเห็นเธอพอใจ ก็ยิ้มออกมา
งั้นต่อไป...ถ้ายายฟ้าเกิดมา คุณก็อย่าไปพาลหาเรื่องแกอีกเลยนะ เพราะแกก็อุตส่าห์ช่วยพวกเราถึงขนาดนี้
ดาราเกือบจะค้อนควัก
ก็ได้ ถ้าเกิดแม่นั่นมา ฉันจะลองทำดีด้วย ขอแค่ให้มันเอาสูตรยามาให้ได้จริงๆเถอะ
แต่คุณแม่ก็อย่าไปพูดอะไรให้ยายฟ้ากระโตกกระตากนะครับ เพราะยายฟ้าคิดว่าคุณพ่อกำลังป่วยหนัก ภัทรพลรีบย้ำกับเธอ เพราะเกรงเธอจะไปเผลอปากพูดจนเสียเรื่อง
รู้แล้วน่า เรื่องแบบนี้ฉันจะรูดซิปปากให้สนิท มารดาของเขารับรองหนักแน่น
แต่ดาราก็ไม่ได้รับปากว่าจะไม่บอกคนอื่น ดังนั้นสุดท้าย เธอก็นำเรื่องนี้ไปบอกกับลูกสาวสองคนให้ตื่นเต้นกันยกใหญ่
จริงหรือคะ คุณพ่อ? คุณแม่? ดาวฉายไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องนี้เลยสักนิด
เดือนไฉไลถึงกับหัวเราะขำออกมา
ต๊าย! ฟังแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อ นี่ยายฟ้าคิดจะแต่งงานกับคนแก่ๆรุ่นปู่รุ่นทวดเลยหรือเนี่ย? เธอดูจะขำกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
คุณแม่ครับ ภัทรพลทำสีหน้าไม่พอใจ
อะไรเล่า แม่ก็แค่เล่าให้ยายเดือนกับยายดาวฟังเท่านั้น ไม่ได้ไปเล่าให้ใครที่ไหนฟังเสียหน่อย แล้วอีกหน่อยพวกแกเองก็ต้องรู้อยู่ดี ไม่เล่าตอนนี้ วันหน้าก็ต้องเล่าอยู่แล้ว ดาราพูดอย่างคนมีเหตุผลพอสมควร
แต่ถ้ายายเดือนกับยายดาวเกิดปากมาก จนยายฟ้าแกเกิดรู้ว่า กำลังถูกพวกเราหลอกอยู่ล่ะ คุณจะว่าไง? ชาติชายเองก็ชักไม่ค่อยชอบใจสถานการณ์นี้เช่นกัน
นี่คุณเห็นลูกๆเป็นพวกปากมากงั้นเหรอ? ยายเดือนกับยายดาวไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก ใช่มั้ยจ้ะ? ลูกเดือน? ลูกดาว? เธอหันไปถามลูกสาวทั้งสองคนยิ้มๆ
แน่นอนอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ ดาวฉายพูดกับเธออย่างฉอเลาะประจบเอาใจเต็มที่
พี่ภัทไม่เห็นจะต้องโมโหไปเลย งานนี้พี่เองก็นับว่าพอได้ประโยชน์อยู่บ้างเหมือนกันนะ เดือนไฉไลพูดกับเขา
หมายความว่าไง? ภัทรพลหันมามองเธออย่างสงสัย
ก็พี่ภัทยังหาคู่ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? เดือนจะช่วยเป็นคู่ให้กับพี่ภัทเอง เดือนก็อยากจะไปดูนายเหมวันต์นั่น ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง น้องเขยของเดือนเองนี่คะ
สงสัยหน้าตาคงดูไม่จืดแหงๆ ผู้ชายที่อยู่เป็นโสดมาได้ตั้งห้าสิบปี ถ้าไม่เหลือทนจริงๆ ผู้หญิงที่ไหนจะไม่เอา ดาวฉายแทบจะหัวเราะเสียงลั่นออกมา
เดือนไฉไลเองก็ยิ้มขำมาก สองพี่น้องฟังจากที่มารดาเล่ามาทั้งหมด ก็เลยทำให้หลงคิดไปกันเองว่าคงจะเป็นผู้ชายที่ดูแย่มากเต็มที
ชาติชายคิดว่าไม่ยุ่งเรื่องนี้ดีกว่า
ภัทรพลเองก็วางหน้าเฉยๆ คิดว่าให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน
ตกลงตามนี้นะ พี่ภัท? เดือนไฉไลถามเขา
ภัทรพลยักไหล่
ก็ตามใจเธอสิ เขาพูดอย่างไม่สนใจใยดี
แหม...ดาวเองก็อยากไปด้วยจัง ดาวก็อยากเห็นหน้าคนที่ยายฟ้าจะแต่งงานด้วย จะไปช่วยสมน้ำหน้า เอ๊ย ไปช่วยแสดงความยินดีให้ ดาวฉายพูดยิ้มๆอย่างสะใจมากที่เรื่องเป็นแบบนี้
เธอไม่ต้องไปหรอก อยู่บ้านเฉยๆ แล้วรอฟังข่าวก็พอแล้ว คนยิ่งมาก เรื่องก็ยิ่งมาก ภัทรพลพูด
ดาวฉายยักไหล่ ไม่ได้ว่าอะไรทั้งนั้น แต่เธอก็ตั้งใจจะรอฟังพี่สาวของเธอกลับมาเล่าเรื่องให้ฟังเหมือนกัน จะได้ช่วยกันหัวเราะให้สนุกขาดใจไปเลย
ฟ้ารุ่งบรรจงแต่งกายอย่างงดงาม ในชุดกระโปรงสีชมพูกุหลาบที่ขับผิวของเธอให้ดูผุดผ่องยิ่งขึ้นภายใต้แสงจันทร์นวล
เธออยากจะให้เหมวันต์ได้มาเห็นเธอในชุดนี้ เขาจะต้องหลงใหลเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้นเป็นแน่ และในที่สุดเขาก็ต้องขอเธอแต่งงานจนได้
ตลอดหลายวันที่ได้ใกล้ชิดกับเขา ฟ้ารุ่งค่อนข้างมั่นใจว่าเหมวันต์กำลังตกหลุมรักเธออยู่ เขาคอยติดตามเป็นห่วงเป็นใยเธอทุกฝีก้าว แทบจะกลายเป็นเงาตามตัว
หญิงสาวแต้มลิปลงบนริมฝีปากเพื่อให้ดูเย้ายวนยิ่งขึ้น
เธอได้ยินเสียงฝีเท้าข้างนอก คิดว่าเหมวันต์คงจะมาถึงแล้ว
ฟ้ารุ่งเยี่ยมหน้าออกไปดูทางหน้าต่าง จึงเห็นชายหนุ่มกำลังเดินมุ่งหน้าตรงมาที่กระท่อมของเธอ ในมือของเขามีดอกไม้ช่อเล็กๆมาด้วย
หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าถือ แล้วก็เดินออกไปหาเขา
เหมวันต์ตะลึงมองเธอนิ่งอยู่เป็นครู่
ฟ้ารุ่งยิ้มหวานหยด
สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ เธอกล่าวทักทายเสียงหวานเช่นกัน
ครับ สายัณห์สวัสดิ์ เหมวันต์แทบไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป
ตอนนี้เขารักเธออย่างหมดหัวใจไปแล้ว แทบไม่มีอะไรเคลือบแคลงอีกต่อไป
เขาตั้งใจว่า พอเสร็จงานเต้นรำครั้งนี้แล้ว เขาจะลองขอเธอแต่งงานดู
เขาคิดว่าเธอคงจะไม่ปฏิเสธ
ชายหนุ่มหยิบดอกไม้ที่เขาติดมือมาดอกหนึ่ง แล้วช่วยกลัดกับเสื้อผ้าของเธอด้วยท่าทีดูอ่อนโยน
หญิงสาวยิ้ม เมื่อเขาช่วยกลัดให้เสร็จแล้ว
ไปกันได้หรือยังคะ?
ครับ ไปได้แล้ว เหมวันต์ตอบ
ฟ้ารุ่งคล้องแขนเขา แล้วทั้งคู่ก็เดินออกมา
แล้วเราจะไปยังไงหรือคะ? ฟ้ารุ่งสงสัย เพราะคิดว่าสถานที่เต้นรำคงจะอยู่ไกลจากที่นี่พอสมควร ถ้าจะให้เดินไปกันทั้งรองเท้าซ่นสูง มีหวังตายแน่
เราเดินไปอีกหน่อย ผมได้ให้รถมารอรับเราอยู่แล้ว เหมวันต์บอกเธออย่างเข้าใจดี
ฟ้ารุ่งเดินจับมือกับเขาจนไปถึงบริเวณที่รถจอดอยู่
เหมวันต์ช่วยพยุงเธอขึ้นรถ ก่อนที่จะตามขึ้นมานั่งลงข้างๆ
พอปิดประตูรถแล้ว คนขับรถก็รีบสตาร์ทรถทันที
ฟ้ารุ่งมองทิวทัศน์ข้างนอก แต่แทบไม่เห็นอะไรนัก นั่นเพราะมืดแล้วนั่นเอง
เหมวันต์มองเธออย่างหลงใหลจนเห็นได้ชัด
ฟ้ารุ่ง คืนนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย จู่ๆเขาก็พูดออกมา
ฟ้ารุ่งหันกลับมา เห็นสายตาทอดเชื่อมจ้องมองเธออยู่
หลังจากงานเต้นรำจบแล้ว ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะพูดกับคุณ
ฟ้ารุ่งแทบไม่กระพริบตา
เธออยากรู้ว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร
บางที...อาจเป็นเรื่องแต่งงานก็ได้
หญิงสาวใจเต้นแทบไม่เป็นศัพท์ ทั้งๆที่เธอเองก็กำลังรออยู่
คุณเหมวันต์ คุณอยากจะพูดอะไรกับฉัน?
เหมวันต์ยิ้ม
รอให้เลิกงานก่อน แล้วผมจะบอกคุณ
ฟ้ารุ่งจึงนิ่ง ไม่กล้าคาดคั้นเขา
เขาบอกว่าจะบอก เมื่อเลิกงานเลี้ยงครั้งนี้
ฟ้ารุ่งรู้สึกกลัว จนไม่อยากจะให้ถึงเวลานั้นเลย
รถของพวกเขามุ่งไปยังสถานที่จัดงาน หนุ่มสาวทั้งสองต่างได้ยินเพลงเปิดงาน เป็นเพลงลูกทุ่งสนุกๆที่ดูครื้นเครง
ท่าทางคงจะสนุกนะคะ ฟ้ารุ่งพูดกับเขายิ้มๆ
เหมวันต์เองก็หันมายิ้ม
พวกเขาลงจากรถ ก็กลายเป็นจุดเด่นของคนอื่นๆไป
ว้าย! คุณเหมวันต์ ฟ้ารุ่งได้ยินเสียงเด็กสาวๆอุทานชื่อของเขาไปตามๆกัน
เหมวันต์ไม่ทำท่าเหมือนได้ยินเสียงเหล่านั้น
เขาพาเธอเดินไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ แล้วก็เซ็นชื่อในฐานะแขกที่มาร่วมงานนี้ด้วย
มีผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาทางพวกเขา
คุณเหมวันต์ใช่ไหมครับ? เขาถามอย่างรู้จักดี
ครับ คุณคือ... เหมวันต์ไม่แน่ใจว่าเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่า
ผมชื่อชนะพร เป็นกรรมการจัดงานครั้งนี้ ไม่นึกเลยว่า ปีนี้คุณจะมาร่วมงานด้วย ผมแปลกใจมากจริงๆ อะไรดลใจทำให้คุณเปลี่ยนใจได้ล่ะครับ? ชนะพรถาม
เหมวันต์อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวข้างๆกายเขา
ชนะพรมองเธอ แล้วจึงเข้าใจในที่สุด
คุณ...
ฟ้ารุ่งค่ะ ฟ้ารุ่งแนะนำตัวเอง
ครับ งั้นผมขอให้พวกคุณสนุกกับงานนี้นะครับ เขาพูดอวยพรให้สองหนุ่มสาว
จากนั้นชนะพรก็ขอตัวไปดูแลงานต่อ
ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนที่มีชื่อนะคะ ขนาดคณะกรรมการจัดงานยังต้องแวะมาทักทายเลย ฟ้ารุ่งพูดยิ้มๆ
งั้นเหรอ? เหมวันต์เองก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้
เขาอยู่ที่นี่มานานมากกว่าห้าสิบปีแล้ว การที่ทุกคนรู้จักเขากันหมด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
คงจะเป็นเพราะการที่จู่ๆเขาก็มาปรากฎตัว ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาเอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่แต่ในคฤหาสน์แดง จึงทำให้ทุกคนอดตื่นเต้นเหมือนเจอของแปลกใหม่ไม่ได้
ฟ้ารุ่งเห็นหนุ่มสาวเป็นคู่ๆกำลังจับกลุ่มเต้นรำอยู่ เธอก็นึกอยากเข้าไปเต้นด้วย จึงจับมือเหมวันต์รีบเข้าไปร่วมด้วย
ไม่มีว่าต่อว่าเธอ ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็เต็มใจต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างพร้อมใจ
เหมวันต์ไม่ได้เต้นรำมาร่วมห้าสิบปีแล้ว ท่าทางในตอนแรกจึงดูเก้งก้างไปหมด แต่ก็ได้หญิงสาวช่วยนำ แล้วสักพักเขาก็เริ่มคุ้นชิน
หนุ่มสาวต่างเต้นรำกันอย่างมีความสุข จนแทบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ฟ้ารุ่งเองก็เกือบจะลืมวัตถุประสงค์ของตนเองไปเสียสนิท ขอแค่ให้เวลานี้หยุดอยู่ตรงเพียงแค่นี้ก็พอแล้ว
จนเธอเหลือบตาไปเห็นภัทรพลกับเดือนไฉไล เธอหน้าซีดเล็กน้อยอย่างไม่ทันรู้ตัว
เดือนไฉไลกำลังจ้องอย่างกินเลือดกินเนื้อ เพราะไม่คิดว่าจะมาเห็นเธอในสภาพแบบนี้
เหมวันต์ดูหนุ่มแน่น แถมหน้าตายังหล่อเหลา ดูสง่าภูมิฐานแบบลูกผู้ดีมีสกุลจนเห็นได้ชัด มันแตกต่างจากภาพที่เธอจิตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง
เหมวันต์เห็นฟ้ารุ่งชะงัก เขาก็ก้มหน้ามองเธออย่างนึกสงสัย ก่อนจะมองตามสายตาของเธอไป
คุณรู้จักพวกเขาด้วยหรือ? เหมวันต์หันกลับมา
...เอ้อ...เปล่าค่ะ ฉันไม่รู้จัก ฟ้ารุ่งอึกอัก
แต่โดยไม่ทันคาดคิด เดือนไฉไลกลับเดินนวยนาดเข้ามาหา พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานหยด
ตายแล้ว ยายฟ้า คิดไม่ถึงเลยว่า จะได้มาเจอเธอเข้าที่นี่ เดือนไฉไลทำทีเข้ามาทักด้วยอย่างเป็นมิตร
เหมวันต์ยิ่งขมวดคิ้ว เขามองภัทรพลที่รีบตามเดือนไฉไลมาติดๆ ด้วยเกรงว่าเธอจะก่อเรื่อง
คุณภัทรพล คุณก็มางานนี้ด้วยหรือครับ? เหมวันต์จำเขาได้
ภัทรพลหน้าจืดเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเดือนไฉไลจะกล้าถึงกับเข้ามาแสดงตนแบบนี้ ผิดจากแผนที่เขาได้วางเอาไว้
เดือนไฉไลเข้ามาจับแขนฟ้ารุ่งเหมือนคนคุ้นเคยกันดี
ยายฟ้าเป็นน้องสาวของเราเองค่ะ คุณเหมวันต์ เธอตอบอย่างไม่รู้ไม่ชี้
น้องสาว! เหมวันต์งันไปสนิท
เขาจำได้ว่า ฟ้ารุ่งเคยบอกเขาว่า ไม่เคยมีญาติพี่น้องมาก่อน แล้วไหงตอนนี้ถึงเกิดมีตัวพี่สาวโผล่ออกมาได้
ภัทรพลจ้องเดือนไฉไลอย่างโมโห เขาคิดว่ากลับไปจะเฉ่งเธอให้จงหนัก
ฟ้ารุ่งหน้าซีดเผือด เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
ไหนคุณว่า คุณไม่มีญาติพี่น้องไงล่ะ? เหมวันต์หันมาถามเธอ
ต๊าย! เอาอีกแล้วเหรอ? ยายฟ้า เธอนี่มันเหลวไหลจริงๆเลยนะ พอเจอผู้ชายหนุ่มๆหล่อๆเข้าหน่อยเป็นไม่ได้ ต้องรีบเชียวนะ นี่เราคงจะไปอ้อนเขาจนหลงเชื่อสนิทเลยล่ะซี
home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
|