home ย้อนกลับ
๑๑
วรงค์เปิดประตูรถลงมาเรียก
เทิง! เทิงเว้ย!
ผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูออกมาดูว่าใครเรียกเขา
กมลชนกเห็นชายหนุ่มอายุอานามไล่เลี่ยกับสามีของตนเดินเขยกเท้าลงจากระเบียง
นึกว่าใครมา ที่แท้ก็แกเอง ไอ้รงค์ ไม่เจอเสียหลายปี แก่ขึ้นตั้งเป็นกอง เพื่อนของเขาพูดกระเซ้า
แกก็เหมือนกันแหละ เปิดประตูเร็ว
บุญเทิงรีบเปิดประตูรั้ว เพื่อให้เพื่อนของเขาถอยรถนำเข้ามาจอดได้
บุญเทิงสังเกตว่าเพื่อนของเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่ยังมีผู้หญิงและเด็กมาด้วยคนหนึ่ง
ลูกเมียแกหรือ? เขาถามเพื่อน
ใช่ พวกฉันสามคนตั้งใจว่า จะมาขอค้างบ้านแกสักคืนน่ะ แกจะยอมมั้ย?
ก็เอาซี ถ้าไม่เห็นว่าบ้านมันคับแคบล่ะก็
ยังไงก็ได้ทั้งนั้นน่า ขอแค่มีที่ซุกหัวก็พอ
บุญเทิงมองเขาอย่างแปลกใจอยู่
กมลชนกเปิดประตูรถลงมา และยกมือไหว้เขา
โอ้โฮ! เพื่อนยาก แกนี่โชคดีจริงๆพับผ่า ฉันชักอิจฉาแกแล้ว ได้เมียสวยอย่างนางฟ้า บุญเทิงทำท่าอิจฉาจริงๆ
ถ้าหากเป็นนางฟ้าจริง ฉันก็คงจะไม่เดือดร้อนขนาดนี้หรอก วรงค์พูดด้วยน้ำเสียงหมางเมิน
กมลชนกหน้าเผือดซีด
บุญเทิงรู้สึกงุนงงไปหมด เขาหันมาเห็นเด็กหญิงที่ยืนจ้องเขาอยู่ จึงส่งยิ้มให้
หนูชื่ออะไรหรือจ๊ะ?
ฉันชื่อภูริศา โภคินเลิศทรัพย์ และฉันขอบอกไว้ก่อนว่า ฉันไม่ใช่ลูกของไอ้คนเฮงซวยนี่ ภูริศาประกาศตัวเย่อหยิ่ง
ไอ้เด็กเปรต! อยากจะถูกตีให้ตายใช่ไหม? วรงค์เดือดขึ้นมาอีก
อย่านะคะ กมลชนกรีบเข้ามาบังตัวลูกไว้
เดี๋ยวก่อน มันอะไรกัน? โภคินเลิศทรัพย์เหรอ? นั่นมันนามสกุลของภูสันต์ไม่ใช่รึไง? บุญเทิงรู้สึกสะดุดหูขึ้นมา
คุณรู้จักคุณพ่อของหนูด้วยหรือคะ? ภูริศารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หรือว่าผู้ชายคนนี้ก็เป็นเพื่อนของบิดาของเธอ ซึ่งถ้าเป็นจริง เธออาจขอร้องให้เขาช่วยพาเธอกลับส่งบ้านก็ได้
หนูว่าไงนะ? หนูเป็นลูกสาวของภูสันต์งั้นเหรอ?
อาจเป็นลูกของฉันก็ได้ วรงค์พูดห้วนๆ
บุญเทิงก็เลยหันมามองเขา
เอาเถอะ ยังไงก็เข้าไปคุยข้างในก่อน เดี๋ยวฉันจะไปหาน้ำหาท่ามาให้ดื่มแก้กระหายกันด้วย ท่าทางทุกคนดูเหนื่อยกันไม่ใช่เหรอ?
เป็นดังที่บุญเทิงว่า ทั้งสามคนรู้สึกเหนื่อยจนบอกไม่ถูกแล้ว
ดังนั้น พวกเขาจึงพากันเดินตามหลังของเจ้าของบ้านขึ้นบ้านไป
"ฉันไม่รู้เรื่องเลยนะ ว่าแกกับภูสันต์จะมีเรื่องกินแหนนแคลงใจกันมากถึงขนาดนี้ ฉันจำได้เหมือนกันว่า เมื่อก่อนฉันก็เคยไปงานแต่งงานของภูสันต์กับคุณกมลชนก แต่เวลามันก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว ฉันเลยจำคุณกมลชนกไม่ได้ แต่จำได้เลาๆว่า เธอสวยจนฉันและคนอื่นๆพากันอิจฉาภูสันต์มัน ฉันยังคิดเลยว่าในบรรดาพวกเราทุกคน เจ้าภูสันต์มันจะเป็นคนที่โชคดีที่สุด พอเรียนจบไม่ทันไรก็ตั้งตัวได้ก่อนใคร แถมยังได้แต่งงานกับผู้หญิงสวยเหมือนนางฟ้า บุญเทิงพูดแล้วก็ถอนหายใจ
ใช่ ตอนนั้นฉันถึงกับอาสามันช่วยเป็นคนตกแต่งเรือนหอให้ หลังจากพวกเขาสองคนแต่งงานกันแล้ว ฉันก็ยังคอยหาข้ออ้างแวะไปหามันที่บ้านบ่อยๆ วรงค์พูดแล้วก็ทำท่าเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้ผีห่าซาตานตนไหนมาดลใจฉัน ถึงทำให้ฉันทำเรื่องแบบนั้นลงไป ทุกวันนี้ฉันไม่เคยมีความสุขเลย
ทั้งๆที่แกก็ได้ตัวคุณกมลชนกมาเป็นศรีภรรยาสมใจแกแล้วอย่างงั้นเหรอ? บุญเทิงถามเขา
ตอนรักกันหวานชื่นใหม่ๆมันก็มีความสุขอยู่หรอก แต่พอความรู้สึกมันจืดจางลง ฉันถึงได้รู้ตัวว่าทำอะไรโง่ๆ ภูสันต์มันต้องไม่มีวันยกโทษให้แน่ เพราะฉันไปแย่งเมียมันมา มันจะต้องคอยคิดแก้แค้นฉันอยู่แน่ๆ ฉันเคยถึงกับหลับฝันเห็นมันมายืนเงื้อมมีดอยู่ข้างเตียง
คงเป็นมโนธรรมที่คอยตามหลอกหลอน คนที่เคยสร้างบาปกรรมอะไรไว้ ย่อมต้องได้รับผลกรรมตอบแทน ถ้าหากพวกแกสามคนยังขืนจองเวรจองกรรมกันอยู่แบบนี้ต่อไป ฉันว่าพวกแกทั้งสามคนคงไม่มีวันมีความสุขไปชั่วชีวิตแหละ มันจะเป็นอยู่แบบนี้ร่ำไป แถมยังจะตามติดไปถึงชาติหน้าอีกด้วย
เมื่อก่อนฉันไม่เคยเชื่อเรื่องบาปกรรม แต่มาตอนนี้คงจะไม่เชื่อไม่ได้แล้ว ดูอย่างลูกฉันสิ มันยังไม่ยอมรับฉันเป็นพ่อของมันเลย วรงค์พูดแล้วรู้สึกอนาถใจตนเอง
ตกลง...เด็กนี่เป็นลูกแกจริงๆหรือ? บุญเทิงถาม
คงงั้นแหละ มันคงจะเกิดมาเพื่อประจานความชั่วของฉันเอง วรงค์พูดอย่างมั่นใจมาก
ถ้าแกคิดแบบนั้น แกควรจะวางมือ และคืนเด็กให้กับภูสันต์ไปดีกว่า ถือว่าเป็นการล้างบาปที่แกเคยก่อ พวกแกสองคนต่างก็เป็นเพื่อน ฉันจึงไม่อยากจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะให้ฉันทำไม่รู้ไม่ชี้ ช่วยแกปกปิดภูสันต์ตลอดก็ไม่ได้
หมายความว่า...แกจะช่วยภูสันต์งั้นเหรอ? วรงค์ชักโมโห
แล้วแกอยากจะให้ฉันช่วยแกเพื่อสร้างบาปกรรมต่อไปรึยังไง แกเอาตัวเด็กมาทรมานทรกรรมแบบนี้ ฟ้าดินจะต้องลงโทษแกสักวันแน่
วรงค์ทำท่าพูดอะไรไม่ออก
เอางี้ พวกแกทั้งสามคนยังไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น พักอยู่ที่บ้านของฉันไปก่อนแล้วกัน รอจนแกคิดได้แล้ว ฉันจะช่วยติดต่อภูสันต์ให้มารับเด็กไป แบบนี้คงจะดีกว่านะ บุญเทิงพูดตัดสินออกมา
วรงค์ไม่ยอมตอบ เขาเอาแต่นั่งซึมอยู่ท่าเดียว
บุญเทิงจึงปล่อยเขาทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว เพราะคิดว่าชายหนุ่มคงจำเป็นต้องมีเวลาคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง
เขาออกมาข้างนอกหาผ้าผืนใหญ่มาคลุมรถไว้ให้เรียบร้อย เพราะเกรงว่าถ้ามีคนมาเห็นเข้าอาจจะกลายเป็นเรื่อง
จากนั้นเขาจึงได้ไปดูสองแม่ลูกที่อยู่ในห้องรับรองของบ้านเขาเอง
คุณกมลชนกใช่ไหมครับ? บุญเทิงถามอย่างสุภาพ
ค่ะ คุณ... กมลชนกยังไม่ทราบชื่อของเขา
บุญเทิงครับ ผมกับวรงค์และภูสันต์เคยเป็นเพื่อนร่วมเรียนอยู่สถาบันเดียวกันรุ่นเดียวกันมาก่อน ตอนที่ภูสันต์แต่งงานกับคุณ ผมเองก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานด้วย บุญเทิงเล่าให้เธอฟัง
งั้นคุณลุงก็เป็นเพื่อนกับคุณพ่อจริงๆ ช่วยเราด้วยได้ไหมคะ? ลูกหนูกับคุณแม่อยากจะกลับไปหาคุณพ่อ เด็กหญิงบอกกับเขาโดยเร็ว
ลุงก็พยายามอยู่จ้ะ เมื่อกี้ลุงก็พูดเกลี้ยกล่อมวรงค์เอาไว้แล้ว ตอนนี้เขายังไม่รู้จะตัดสินใจยังไง ลุงเลยบอกให้เขาพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวไปก่อน ไว้เขาคิดได้แล้ว ลุงจะช่วยโทรไปบอกให้คุณพ่อมารับตัวหนูกลับไป ดีไหมจ๊ะ? บุญเทิงพูดกับเด็กหญิง
จริงๆนะคะ คุณลุงไม่หลอกลูกหนูนะคะ ภูริศาดูจะดีใจจนแทบออกนอกหน้า แต่แล้วจู่ๆเธอก็ทำหน้าเหมือนชักไม่มั่นใจ แต่ถ้าเกิดเขาไม่ยอมฟังล่ะคะ จะทำยังไง?
ไงๆลุงก็จะไม่ให้เขาพาหนูไปจากที่นี่แน่จ้ะ ลุงสัญญา บุญเทิงพูดยิ้มๆ
ภูริศาจึงยิ้มให้เขาโดยเร็ว
บุญเทิงเห็นรอยช้ำที่แก้มของเด็กหญิง
เจ็บหรือเปล่า? เขายกมือขึ้นมาแตะแก้มเธอเบาๆ
เด็กหญิงพยักหน้า ทำท่าว่าเจ็บมาก
งั้นรออยู่นี่เดี๋ยวนะ เดี๋ยวลุงจะไปเอายามาทาให้ พูดแล้วเขาก็รีบออกไปนำเครื่องมือปฐมพยาบาลมา
หลังจากทำแผลให้เด็กหญิงเสร็จแล้ว บุญเทิงก็หันกลับมาทางหญิงสาว
แล้วคุณกมลชนกตกลงจะเอาไงต่อไปครับ? หลังจากที่ภูสันต์มารับตัวเด็กกลับไปแล้ว คุณจะตามภูสันต์กลับไปด้วยกัน หรือคุณจะไปกับวรงค์มันแทน บุญเทิงถาม
กมลชนกจ้องเขาด้วยความคาดไม่ถึงว่า จะโดนเขาตั้งคำถามแบบนี้
ฉัน...
แม่ กลับไปกับเรานะคะ ลูกหนูอยากจะอยู่กับแม่และคุณพ่อพร้อมหน้าพร้อมตา ลูกหนูเชื่อว่า พอคุณพ่อทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว คุณพ่อต้องยกโทษให้ และคงอยากให้คุณแม่กลับไปอยู่ด้วยแน่ๆ ภูริศาพูดกับมารดา
แต่แม่ทำแบบนั้นไม่ได้จ้ะ เพราะแม่ได้แต่งงานกับคุณวรงค์แล้ว แม่เป็นภรรยาของเขา ต้องอยู่กับสามีของตัวเอง
ภูริศาทำหน้าผิดหวังมาก
ตามกฎหมายแล้ว...คุณยังเป็นเมียเจ้าวรงค์อยู่ แต่ผมอยากรู้ใจจริงของคุณมากกว่า จริงๆแล้วคุณอยากจะกลับไปอยู่กับภูสันต์ หรืออยากจะตามวรงค์ไปเหมือนเดิม?
แล้วคุณบุญเทิงมีความเห็นว่าอย่างไรคะ? กมลชนกกลับเป็นฝ่ายถามเขาเสียเอง
ผมคิดว่า...เรื่องของเรื่องทั้งหมดนั้น สาเหตุมันเกิดมาจากตัวคุณเอง ผู้ชายสองคนกำลังแย่งชิงดีชิงเด่นเพื่อตัวคุณอยู่ ถ้าคุณไม่ทำให้เด็ดขาดลงไปเลย ให้ใครสักคนตัดใจจากคุณไปเสีย เรื่องก็คงจะไม่จบ ทั้งหมดนี้...เป็นเพราะคุณทำอะไรไม่เด็ดขาด ถ้าคุณจะรักใคร ก็รักคนๆนั้นเพียงคนเดียวก็พอ อย่าเผื่อใจให้ใครอีกคนดีกว่า แม้จะสงสารก็ไม่ได้ครับ
หญิงสาวหน้าซีดไปเล็กน้อย เมื่อฟังเขาพูดเหมือนต่อว่า
ค่ะ คงจะอย่างที่คุณพูด ถึงปากของฉันจะพูดว่ารักคุณวรงค์ แต่อีกใจฉันก็ยังคอยคิดถึงคุณภูสันต์ คิดแต่ว่าเคยทำเรื่องเลวร้ายกับเขาไว้มากแค่ไหน อยากจะชดเชยสิ่งที่เคยทำไว้กับเขาเป็นอย่างมาก
คุณทำแบบนั้นไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะอดีตเอากลับคืนไม่ได้แล้ว
จริงอย่างที่คุณว่า อดีตไม่สามารถจะเอากลับคืนมาได้จริงๆ กมลชนกพูดอย่างเข้าใจ
บุญเทิงคิดว่าหญิงสาวคงจะคิดได้แล้ว จึงได้ออกไปดูเพื่อนของเขาบ้าง
แต่วรงค์ไม่ได้อยู่ในห้อง เขาจึงเดินออกตามหาทั่วบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถแล่นออกไป เขาจึงได้ชะโงกหน้าออกไปดูทางหน้าต่าง
เฮ้ย! ไอ้รงค์ นั่นแกจะไปไหน? กลับมาก่อน
ภูสันต์ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าของเขาอย่างคาดไม่ถึง เขากับคนอื่นๆจึงได้รีบรุดไปยังบ้านของบุญเทิงโดยด่วน เพื่อรับตัวลูกสาวกลับบ้านเสียที
ภูริศาเห็นเขาก็วิ่งเข้ามากอดด้วยความดีใจมาก
คุณพ่อ! ลูกหนูกลัว เด็กหญิงทำท่าจะร้องไห้
ภูสันต์กอดร่างเล็กๆไว้แน่น เขารู้สึกโล่งอกเหมือนยกภูเขาไฟออกจากอก
ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พ่อมารับลูกหนูกลับบ้านของเราแล้ว ภูสันต์บอกกับเด็กหญิง
รวมทั้งแม่ด้วยใช่ไหมคะ? ภูริศาพูดกับเขาเร็ว
ภูสันต์ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย เขาลุกขึ้นยืนและจึงพบกับอดีตภรรยายืนอยู่ข้างหลังลูกสาวของเขาพร้อมกับบุญเทิง
มนสิกานต์เข้ามาหาเด็กหญิง
หนู น้าขอโทษด้วย เพราะน้าเป็นต้นเหตุ ถึงทำให้หนูต้องเดือดร้อนขนาดนี้ เธอพูดอย่างเสียใจจริงๆ
ภูริศามองหน้าเธอ ก่อนจะมองหน้าบิดาเหมือนอยากจะขอความเห็น
ยกโทษให้คุณน้าไปเถอะลูก คุณน้าเขาทำเพราะเข้าใจผิดไป เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะ ภูสันต์บอกเธอ
ภูริศาจึงพยักหน้า
ก็ได้ค่ะ เพราะอย่างน้อยลูกหนูก็ได้พบหน้ากับแม่ด้วย ถือว่าหายกัน
มนสิกานต์จึงยิ้มทั้งน้ำตา
คุณภูสันต์... กมลชนกทำมือกุมไว้ระหว่างอก ขณะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงวิงวอน ฉันขอร้องด้วยเถอะค่ะ ช่วยตามคุณวรงค์กลับมาที
ภูสันต์ได้แต่จ้องเธอ
คนอื่นๆพลอยเงียบกริบไปหมด เพราะไม่ทราบว่าเขากำลังคิดอย่างไร
ภูสันต์อยากจะหัวเราะเสียจริงๆ นี่เขาต้องไปออกตามหาเพื่อนจอมทรยศให้กับอดีตภรรยาของเขาอย่างงั้นเหรอ
ภูสันต์ บุญเทิงเห็นว่าควรพูดอะไรบ้าง ฉันรู้เรื่องของพวกแกทั้งหมดแล้วนะ ฉันเองก็เสียใจแทนแก แต่ฉันว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่เวลาจะมานั่งคิดคุมแค้นถึงอดีต เราจะต้องรีบไปตามวรงค์กลับมา ฉันเกรงว่ามันจะคิดสั้นเสียก่อน
ภูสันต์ฟังแล้วก็ได้คิด จึงพยักหน้า
ตกลง งั้นพวกเราก็แยกกันออกไปตามหาเขากัน ว่าแต่แกเห็นเขาขับรถไปทางไหนหรือ?
ภูสันต์บอกให้มนสิกานต์พากมลชนกกับภูริศากลับไปก่อน เขากับกรรชัยและคนอื่นๆจึงขึ้นรถ และแยกกันออกตามหาวรงค์ไปตามเส้นทางที่บุญเทิงบอกมา
ระหว่างทาง พวกเขาหยุดแวะถามคนผ่านทางว่าเห็นมีรถยนต์สีฟ้าขาวผ่านไปไหม ซึ่งเขาก็ตอบว่าเห็นขับขึ้นเขาไปได้สักพักใหญ่แล้ว
ทุกคนจึงรีบขับรถขึ้นเขาโดยเร็ว ด้วยเกรงว่าชายหนุ่มอาจจะคิดกระโดดหน้าผาก็ได้
ภูสันต์จอดรถข้างรถสีฟ้าขาว และบอกให้ทุกคนรออยู่แต่ในรถ เพราะเขาต้องการจะพูดกับวรงค์เพียงคนเดียว
ชายหนุ่มเดินขึ้นไปจนถึงริมหน้าผา ก็พบวรงค์อยู่ตรงนั้น
วิวสวยนักหรือไง? ถึงได้ขับขึ้นมาถึงนี่ได้ ภูสันต์พูดเสียงเหน็บ
วรงค์หันขวับกลับมาถลึงตาใส่
ฉันแค่อยากหลบมายืนคิดอะไรคนเดียวเท่านั้น เขาพูดห้วนๆ
จริงเร้อ นึกว่าคิดมากจนสติฟั่นเฟือน เลยจะมากระโดดหน้าผาเสียอีก
แกอยากจะให้เป็นอย่างงั้นมากนักหรือไง? วรงค์พูดเสียงกระโชก
ถ้าฉันเกิดบอกว่าอยาก แกจะกระโดดลงไปจริงๆรึไง? ภูสันต์ย้อน
แก... วรงค์เดือดจัด
แกหาว่าฉันเลี้ยงลูกตามใจจนเหลิง แต่ความจริงมันน่าจะเป็นเพราะมันได้เลือดร้อนของแกมาเองเสียมากกว่า
อ้อ นังเด็กนั่นมันแอบติดต่อกับแกอยู่จริงๆด้วย เป็นอย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด
ภูสันต์ไม่คิดจะปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
วรงค์ ถึงเวลาที่เรามาตัดสินกันดีกว่า แกคิดว่าภูริศาเป็นลูกฉัน แต่จริงๆไม่ใช่หรอก ภูริศาเป็นลูกของแกเอง มันมีเลือดครึ่งหนึ่งเป็นของแก
แกรู้ได้ยังไง? แกเคยพิสูจน์ด้วยเหรอ?
ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะพิสูจน์ แต่ฉันเคยให้หมอทำประวัติของภูริศาไว้ เด็กนั่นมีเลือดกรุ๊ปเอ ไม่ใช่เลือดกรุ๊ปบี ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของแกกับกมลชนกจริงๆ
วรงค์ยืนนิ่งขึงไปเป็นครู่
จริงเหรอ? เขาถึงกับเสียงเครือไม่รู้ตัว
จริง แต่เรื่องนี้ฉันตั้งใจว่า จะปิดเป็นความลับไปก่อน รอจนกว่าภูริศาจะเป็นผู้ใหญ่และยอมรับความจริงได้แล้ว ฉันถึงจะบอกให้แกรู้
แก...แกจะบอกลูกงั้นเหรอ? วรงค์ไม่อยากเชื่อหู
ใช่ แกสมควรจะรู้ว่าใครคือพ่อที่แท้จริง แต่ฉันก็คิดว่า เรื่องนี้มันไม่น่าจะทำลายความผูกพันระหว่างฉันกับภูริศาได้ ไงๆพ่อของแกก็คือฉันเองอยู่ดี
วรงค์ถึงกับงงไปอยู่เป็นครู่
นี่แกตั้งใจจะมาบอกเยาะเย้ยฉันซีนะ ว่าลูกรักแก ไม่ใช่ฉัน
เปล่า ฉันแค่จะมาบอกขอบใจแกต่างหาก ที่ช่วยมอบเด็กที่น่ารักอย่างภูริศาให้กับฉัน ทุกวันนี้ฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเด็กคนนั้น ดังนั้น เรื่องในอดีตน่ะ...ฉันลืมมันไปหมดแล้ว อีกไม่นาน...ฉันก็จะแต่งงานแล้วด้วย เพราะงั้นฉันก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่จริงๆเสียที ที่เหลือก็คือแกเองนั่นแหละ ที่จะจัดการกับชีวิตของตัวเองยังไง แต่ฉันว่าทางที่ดี แกควรลืมเรื่องทั้งหมดไปดีกว่า เพราะถึงคิดมากไปจะได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้ฉันกับกมลชนกก็ไม่ได้มีอะไรต่อกันอีกแล้ว มีแต่แกเท่านั้นที่มัวระแวงสงสัยไม่เข้าท่า
วรงค์ถึงกับอึ้งไปเป็นครู่
กลับไปด้วยกันดีกว่า วรงค์ ฉันคิดว่าแกเองก็น่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนกัน แกกับกมลชนกยังหนุ่มสาวทั้งคู่ จะมีลูกใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนภูริศา...ให้ฉันเป็นคนดูแลไปดีกว่านะ เพราะเด็กมันผูกพันอยู่กับฉันแล้ว เอาไป เด็กก็คงจะไม่มีความสุข แต่ถ้าแกอยากเห็นหน้าลูกขึ้นมาบ้าง ไว้ฉันจะช่วยจัดการให้พวกแกได้พบหน้ากันบ้างก็ได้
วรงค์มีอาการห่อไหล่และคอตกอยู่
ว่าไง? ภูสันต์ถาม
แต่ถ้าฉันกลับไป ฉันก็คงต้องไปนอนในคุกซีนะ
ไว้ฉันจะถอนแจ้งความให้เอง แต่เรื่องคนขับรถแท็กซี่นั่น แกต้องไปขอขมาเขา และก็ต้องชดใช้เป็นเงินค่าทำขวัญให้เขาไปด้วย
วรงค์เข้าใจ ขอบใจมาก
ไม่เป็นไร ที่ฉันช่วย ไม่ใช่เพราะแกเคยเป็นเพื่อนฉันเท่านั้น แต่เพราะแกเป็นพ่อของลูกหนูด้วย ฉันไม่อยากจะให้ลูกหนูมีพ่อเป็นพวกขี้คุก
วรงค์พยักหน้า น้ำตาร่วงไม่รู้ตัว
ภูสันต์จึงเข้ามาตบไหล่เขาเพื่อปลอบขวัญ สักครู่ทุกคนจึงได้เห็นคนทั้งสองพากันเดินลงมายังที่รถจอดรออยู่
มันเป็นงานแต่งงานที่ค่อนข้างจะเอิกเกริก มีผู้คนต่างก็แห่กันมาดูงานนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ภูสันต์ออกรับแขกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นอย่างดี และเมื่อขบวนรถของท่านนายพลมนูญมาถึง ชายหนุ่มก็รีบออกไปต้อนรับโดยเร็ว
สวัสดีครับ ท่านนายพล ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์จริงๆที่ท่านอุตส่าห์มางานของผมด้วยตนเอง ภูสันต์กล่าวยิ้มๆด้วยท่าทางดูจริงใจเป็นอย่างมาก
ไม่เป็นไรหรอก เราก็เหมือนคนกันเองอยู่แล้ว ทำไมจะต้องกล่าวเป็นพิธีรีตรองแบบนั้นอีก นายพลมนูญเองก็กล่าวยิ้มๆด้วยเช่นเดียวกัน
บรรดานักข่าวช่างภาพเข้ามารุมถ่ายรูปคนทั้งสองโดยไม่ชักช้า
ท่านนายพลครับ งั้นข่าวที่ว่าบุตรีของท่านมีอะไรอยู่กับคุณภูสันต์นี่ ก็ไม่เป็นความจริงใช่ไหมครับ? มีคนกล่าวขึ้นมาอย่างสงสัยข้องใจเป็นอย่างมาก
จะเป็นความจริงได้อย่างไร พวกคุณก็เห็นว่าคุณภูสันต์มีคนรักอยู่แล้ว วันนี้พวกเขาสองคนก็จะแต่งงานกัน ส่วนเรื่องที่เกิดเป็นข่าวลือนั่น ผมได้สอบถามความจริงจากพวกเขาทั้งสองคนแล้วครับ มนสิกานต์ยอมรับว่ามาค้างที่บ้านคุณภูสันต์ก็จริง แต่แกมาค้างอยู่ห้องเดียวกับลูกสาวของคุณภูสันต์ต่างหาก สองคนเกิดถูกชะตากันก็เลยคบหาเป็นเพื่อน ส่วนที่มีคนได้ยินเสียงร้องและพากันเข้าใจผิดเตลิดเปิดเปิง เป็นเพราะแกไปเจอหนูเข้าต่างหากครับ
หนูเหรอครับ? มีคนทำท่าประหลาดใจมากๆ
ครับ หนู ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมพวกผู้หญิงถึงได้กลัวหนูกันนักนะ คนที่ไม่รู้ก็เลยพลอยเข้าใจผิดกันไป พวกคุณเองทีหลังอย่าเขียนข่าวส่งเดชทำให้ลูกสาวผมต้องเสียชื่อเสียงกันล่ะ ไม่งั้นผมจะฟ้องพวกคุณจริงๆด้วย
เหล่านักข่าวพากันตีหน้าจืดเจื่อนไปตามๆกัน
ภูสันต์กลั้นยิ้มขันมาก ก่อนจะเรียนเชิญท่านนายพลและครอบครัวเข้าไปยังห้องรับรองด้านใน
เกศราในชุดเจ้าสาวแบบไทยๆลงมา คนอื่นๆเห็นต่างก็พากันชื่นชมว่าเจ้าสาวของภูสันต์ดูสวยปานเทพธิดาจำแลงจริงๆด้วย มิน่าล่ะ เขาถึงไม่ชายตาแลหญิงอื่น
ภูสันต์เข้ามาจับมือเธอขึ้นยกจุมพิตต่อหน้าทุกคน
วันนี้คุณสวยมากเป็นพิเศษ เขากล่าวชมจากใจจริง
เกศรายิ้มอย่างเอียงอายอยู่ไม่น้อย เธอคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโชคดีได้แต่งงานกับเขาจริงๆ
วรงค์กับกมลชนกเองก็มายืนดูพวกเขาสองคนแต่งงานกันด้วยสีหน้าดูพลอยจะมีความสุขไปกับพวกเขาด้วย พวกเขาต่างก็พากันลืมเรื่องต่างๆในอดีตไปแล้ว
เด็กทั้งสี่คนมายืนจับกลุ่มคุยกัน ท่าทางดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบางอย่างที่ยังตกลงกันไม่ได้
ฉันต้องเป็นพี่ของสิริมา เพราะว่าฉันเป็นลูกสาวตัวจริงของคุณพ่อ ภูริศากล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
แต่เธออายุน้อยกว่าสิริมาตั้งสองเดือน เธอต่างหากที่จะต้องเป็นน้อง สุวัฒน์เถียงแทนน้องสาวของตัวเอง
แต่ฉันต้องเป็นพี่! ภูริศาทำท่าไม่ยอม
เดี๋ยวก่อนสิ เราอย่ามาทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆแค่นี้เลย ใครจะเป็นพี่หรือเป็นน้องก็ไม่สำคัญนี่ สานนท์รีบห้ามคนทั้งสอง
งั้นก็ให้สิริมาเป็นน้องสิ ภูริศาพูดอย่างเด็กขี้โกง
แต่เป็นน้องน่ะ ถือว่าโชคดีที่สุดเลยรู้มั้ยครับ? เพราะว่าถ้าเป็นพี่ล่ะก็ จะต้องคอยเสียสละให้กับน้อง เวลาน้องอยากได้อะไร พี่ก็ต้องหามาให้กับน้อง สานนท์บอกกับเธอให้ได้คิดดูใหม่อีกครั้ง
ภูริศาได้ยินเช่นนั้นก็ชักลังเล ทีแรกเธออยากจะเป็นพี่ก็เพราะรู้สึกว่าเป็นพี่น่าจะดีกว่า
งั้นก็ได้ ฉันยอมเสียสละเป็นน้องให้ก็แล้วกัน ภูริศาตัดสินใจในที่สุด
สุวัฒน์ทำท่าหมั่นไส้เต็มแก่
ตอนนี้น้องก็ชักจะเริ่มคอแห้งแล้ว พวกพี่ก็ช่วยไปหาอะไรมาให้น้องเล็กหน่อยสิ ภูริศาทำท่าออกคำสั่ง
สามพี่น้องได้ยินก็หันมามองหน้ากันเอง สานนท์ทำท่าพยักหน้ากับน้องๆของตน แล้วพวกเขาก็พากันเดินไปตามทาง
แบบนี้มันจะต่างอะไรกับเมื่อก่อนกันฟะ สุดท้ายก็ต้องมาคอยรับใช้เจ้าเด็กตัวแสบนั่นอยู่เหมือนเดิม สุวัฒน์บ่นเป็นหมีกินผึ้ง
เป็นพี่ไม่ควรจะบ่นนะ สานนท์เตือนเขา
สุวัฒน์ได้แต่ทำปากขมุบขมิบ
พวกเขาพากันเดินไปยังห้องครัว ก็เพื่อนำของทานเล่นไปให้กับน้องสาวคนเล็กของพวกเขาเอง
จบบริบูรณ์
home ย้อนกลับ
|