home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
๘
กรรชัยล้วงกระเป๋ากางเกงของตน หยิบกระเป๋าธนบัตรหนังสีดำออกมา และนำธนบัตรใบละห้าร้อยสองใบจากในนั้นมายื่นส่งมอบให้เบี้ยวกับพลรับไปคนละใบ
สองคนรีบยกมือไหว้ และรับไปใส่กระเป๋า
เข้าใจที่ฉันสั่งนะ แล้วก็ห้ามปูดเรื่องที่ฉันใช้พวกแกให้ไปทำเรื่องพวกนี้เด็ดขาด ถ้านายภูรู้เข้า ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่จะเดือดร้อน พวกแกสองคนคงโดนตัดเงินเดือนกันหมดตูดแน่
เบี้ยวกับพลตีหน้าแหย รู้สึกงานนี้จะเสี่ยงเอาการ ไม่รู้จะได้คุ้มเสียหรือเปล่า
ทำไมนายกรรชัยต้องให้เราทำแบบนี้ด้วยครับ? แบบนี้นายภูก็ได้เสียชื่อกันหมดพอดี พลพูดอย่างข้องใจอยู่
นี่เป็นการทำเพื่อนายภูต่างหาก พวกแกไม่อยากเห็นนายภูได้แต่งงานกับลูกสาวระดับนายพลรึไง
สองคนได้ยินก็ทำสีหน้าเหมือนเข้าใจออกมา
เข้าใจแล้วครับ งั้นพวกผมจะรีบแยกย้ายกันไปทำตามแผนเดี๋ยวนี้เลย
จากนั้นสองคนก็รีบหมุนตัวแยกกันไปคนละทาง คนนึงวิ่งไปทางบ้านรั้วทางซ้าย อีกคนก็รีบวิ่งไปทางบ้านรั้วทางขวา
กรรชัยก็รีบกลับเข้าบ้านไป ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปพบกับภูสันต์
ภูสันต์ลงมาที่ห้องอาหารเพื่อร่วมรับประทานข้าวเช้าพร้อมกับคนอื่นๆตามปรกติ เขานั่งลงที่หัวโต๊ะ ภูริศาในชุดเครื่องแบบนักเรียนก็วิ่งลงมาพร้อมด้วยเกศราและเด็กคนอื่นๆ
คุณพ่อคะ เป็นไงบ้าง? ภูริศาหมุนตัวให้เขาดู
สวยมากเลยจ้ะ ชุดนี้เข้ากับลูกเปี๊ยบ ภูสันต์รีบพูดอย่างเอาใจ
จริงหรือคะ? เด็กหญิงดูจะพอใจอยู่
จริงสิ ไม่เชื่อถามลุงกรรชัยดูสิ ภูสันต์หันไปทางลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ
จริงครับ คุณหนูดูเหมือนเจ้าหญิงยังไงยังงั้น
ภูริศายิ้มแย้มแจ่มใส ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
รีบทานข้าวเถอะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก ภูสันต์บอก
ทุกคนจึงนั่งลงทานข้าวพร้อมๆกัน
อ้อ จริงสิ เดี๋ยวใครสักคนช่วยยกอาหารขึ้นไปให้คุณมนสิกานต์ในห้องด้วยนะ ภูสันต์บอกกับพวกเด็กๆ
ไม่ยกไปเองหรือครับ? กรรชัยถามเขาล้อๆ
อยากโดนหักเงินเดือนนักหรือไง?
ชายหนุ่มจึงรีบหุบปาก กลั้นยิ้มขำเต็มที่
พอภูริศาทานข้าวเสร็จก็รีบลุกจากที่นั่ง
เดี๋ยวลูกหนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ภูริศาบอก
จ้ะ แล้วพวกพ่อจะไปรอที่รถนะ ภูสันต์พูดกับลูกสาว
หลังจากนั้นทุกคนก็ออกมายืนรอเด็กหญิงกันที่ข้างรถของชายหนุ่ม เพราะภูสันต์ตั้งใจว่าวันนี้จะขับรถไปส่งพวกเด็กๆที่โรงเรียนด้วยตัวเองก่อน แล้วถึงค่อยไปทำงาน
ภูริศาที่ทราบเรื่องแต่แรกว่าบิดาจะเป็นคนไปส่ง ก็เลยพลอยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ขณะที่กำลังยืนรอเด็กหญิงไปเข้าห้องน้ำอย่างใจเย็น ก็มีรถยุโรปคันใหญ่คันหนึ่งขับเลี้ยวผ่านประตูรั้วเข้ามา ภูสันต์กับคนอื่นๆก็หันไปมองอย่างค่อนข้างแปลกใจอยู่
รถคันนั้นมาจอดตรงหน้าของพวกเขา ก่อนที่คนขับรถจะลงมาเปิดประตูตอนท้าย
ชายกลางคนร่างท้วมสูงใหญ่ที่มีท่าทางชวนเกรงขามที่สวมเครื่องแบบไม่ค่อยเต็มยศของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ก็ก้าวลงมา และหันมามองภูสันต์ตรงๆอย่างไม่นึกยำเกรง
ภูสันต์พยายามวางหน้าเฉย แต่ในใจอดนึกกระหยิ่มใจกับชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้ เพราะสุดท้ายนายพลมนูญก็เป็นฝ่ายยอมมารับลูกสาวด้วยตัวเองจนได้
เกศรา วันนี้ฉันคงจะไปส่งพวกเด็กๆที่โรงเรียนเองไม่ได้แล้ว เพราะท่านนายพลอุตส่าห์มาด้วยตนเอง เดี๋ยวเธอก็ไปตามใครสักคนช่วยขับรถไปส่งเด็กๆแทนแล้วกันนะ ภูสันต์พูดกับหญิงสาว
เกศราพยักหน้าอย่างเข้าใจดี และมองดูภูสันต์กับพี่ชายออกไปต้อนรับนายพลมนูญพร้อมกัน
สวัสดีครับ ท่านนายพล ผมขอเรียนเชิญเข้าบ้านของผมก่อนนะครับ ภูสันต์ยกมือไหว้เขาก่อน แล้วจึงผายมือให้กับนายพลมนูญให้เป็นฝ่ายเดินไปก่อน
นายพลมนูญไม่พูดสักคำเดียว แต่เขาเดินไปตามที่ชายหนุ่มแนะนำ จนทั้งหมดก็เข้ามานั่งอยู่ในห้องรับแขกใหญ่
บ้านคุณใหญ่จริงๆนี่ แถมจัดห้องหับเป็นระเบียบเรียบร้อยดี นายพลมนูญกล่าวชมเสียงเรียบ
ขอบคุณครับ แต่อันหลังนี้ต้องยกประโยชน์ให้กับแม่บ้านของผมเอง ภูสันต์หมายถึงเกศราที่ทำหน้าที่คอยดูแลทุกอย่าง
ไม่ต้องถ่อมตัวก็ได้ ผมพูดจากใจจริง ทีแรกผมก็นึกว่า จะได้มาเห็นคุณกับลูกน้องคอยตั้งแถวยืนรอรับผมเสียอีก แต่คุณดูใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเหลือเกินนะ
ภูสันต์ยิ้ม ไม่สมกับเป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียใช่ไหมครับ?
มาถึงตอนนี้ ท่านนายพลที่วางหน้าขรึมมาตลอด ก็อดยิ้มนิดๆไม่ได้
นั่นสินะ ข่าวลือก็คือข่าวลือ ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป ผมคงจะต้องมองคุณใหม่แล้วล่ะซี
รู้สึกเป็นเกียรติ์อย่างยิ่งครับ ท่านนายพล ภูสันต์พูดยิ้มๆ
ที่ผมมาในวันนี้...ก็เพราะเรื่องของลูกสาวคนโตของผมเองนั่นแหละ ก่อนอื่นผมคงจะต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย ผมทราบเรื่องทั้งหมดจากร้อยตรีกุลธวัชแล้ว ดูเหมือนลูกสาวผมจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคุณไว้มากทีเดียว ผมเสียใจจริงๆ ท่านนายพลกล่าวเสียงหนัก
ภูสันต์จึงยิ้มเหมือนไม่ถือสา
เล็กน้อยครับ ตอนแรกผมก็ยอมรับว่าโกรธมาก แต่พอท่านนายพลให้เกียรติ์สละเวลามาบ้านผมแบบนี้ ผมก็ไม่คิดติดใจอะไรอีกแล้วล่ะครับ
นายพลมนูญทำท่าพยักหน้ารับรู้
เดี๋ยวผมจะให้เด็กไปตามตัวเธอลงมา ท่านนายพลจะได้รับตัวคุณหนูกลับไปได้เลยนะครับ ภูสันต์กล่าวเสนอ เขาหันไปมองกรรชัยเพื่อบอกให้ชายหนุ่มไปตามหญิงสาวลงมา
แต่นายพลมนูญกลับยกมือห้าม
เอาไว้ก่อนเถอะครับ เพราะผมมีเรื่องที่ต้องการเคลียร์กับคุณให้เข้าใจไปก่อน แล้วผมถึงจะรับตัวยายหนูกลับไปได้
ภูสันต์ดูจะแปลกใจมาก
เรื่องอะไรหรือครับ? เขาถามอย่างค่อนข้างระแวงอยู่
ก็เรื่องคุณกับลูกสาวของผมเองนั่นแหละ
ผมกับลูกสาวของท่าน? ชายหนุ่มถามย้ำให้แน่ใจว่า ตนไม่ได้ฟังผิดไป
ใช่ แต่เท่าที่ฟังคุณพูดมา คุณทำเหมือนไม่ได้รับทราบเรื่องราวอะไรเลย
เรื่องอะไรกันหรือครับ? ภูสันต์ดูไม่เข้าใจจริงๆ
นายพลมนูญจึงได้หยิบหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งออกมาส่งให้กับเขา
ภูสันต์จึงรับไปเปิดดูหน้าแรก พอเห็นหัวข้อข่าวเข้าก็ตกใจแทบหน้าซีด
ภูสันต์อุ้มเงียบลูกสาวระดับนายพล
เขาเงยหน้าขึ้นมองนายพลผู้เฒ่าด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก
ขอประทานโทษด้วยครับ ผมไม่ทราบว่า เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง ผมเองก็ได้พยายามปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับไว้ตลอด คนของผมก็คงไม่มีใครกล้าพูดมาก พวกเขาไม่มีใครกล้าหรอกครับ ผมรับรองได้
เอาล่ะ ผมจะเชื่อคุณเรื่องนี้ก็ได้ เพราะจริงๆคนให้ข่าวนี้เป็นเพื่อนบ้านคุณเองแหละ นายพลมนูญบอก
ภูสันต์วางหน้าไม่ถูก
ผมเสียใจจริงๆครับ ถ้าหากมีอะไรที่ผมพอจะทำเป็นการชดเชยให้ได้ล่ะก็...
ถ้างั้น...ผมขอให้คุณแต่งงานกับลูกสาวผมให้เร็วที่สุด คุณพอจะทำได้ไหม? นายพลมนูญถาม
ภูสันต์รู้ตัวว่าคงไม่มีทางเลี่ยง
ได้ครับ ผมจะทำตามที่ท่านต้องการ
โอเค ถือว่านั่นเป็นข้อตกลงของลูกผู้ชาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณก็ต้องแต่งงานกับลูกสาวของผม เพื่อรักษาเกียรติ์ของเธอ และรักษาหน้าตาในวงสังคมของผมด้วย
ภูสันต์เข้าใจดี เขาไม่กล้าคัดค้านอะไรทั้งสิ้น
จู่ๆก็มีเด็กสาวรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
แย่แล้วค่ะ นายภู คุณมนสิกานต์หนีไปแล้ว
ว่าไงนะ? ภูสันต์รีบลุกขึ้น
นายพลมนูญเองก็พลอยลุกขึ้นเช่นกัน
ทำไมหนีไปได้? เด่นกับด้วงไม่ได้เฝ้าหน้าห้องเอาไว้หรือยังไง? ภูสันต์ถาม
เมื่อกี้หนูยกอาหารขึ้นไปให้คุณมนสิกานต์ แล้วถึงเจอประตูห้องเปิดอยู่ พอเข้าไปดู ก็เห็นพี่เด่นกับพี่ด้วงนอนหมดสติอยู่ที่พื้นค่ะ
ภูสันต์ไม่รอช้า เขารีบไปดูยังห้องที่เกิดเหตุ เห็นเด่นกับด้วงนั่งจ๋องอยู่กับพื้น ท่าทางจะรู้ตัวเองดี
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกแกถึงปล่อยให้คุณมนสิกานต์หนีไปได้? ภูสันต์ถาม
เด่นกับด้วงอึกอัก เขาเห็นมีชายกลางคนในชุดทหารมาด้วย กรรชัยเองก็ยืนอยู่ข้างหลังเพื่อรับฟังความทั้งหมด
พวกเราโดนคุณมนสิกานต์เล่นงานครับ เธอแสร้งทำทีปวดท้องมาก พวกเราก็เลยเข้ามาดู แต่พอเห็นเธอไม่ได้นอนอยู่บนเตียง พวกเราตกใจวิ่งเข้ามา เลยสะดุดกับเชือกล้มลงไปบนพื้น แล้วคุณมนสิกานต์ก็ใช้ไม้ตีพวกเราสองคนจนสลบไป
ภูสันต์ถึงกับอึ้งไป ก่อนจะเหลือบตาไปมองใบหน้าของท่านนายพลที่ตีหน้ายุ่งอยู่
แล้วชายหนุ่มก็เบิกตากว้าง
ก่อนจะมีใครทันคาดคิด เขาก็รีบผลุนผลันออกไป โดยไม่สนใจท่านนายพลอีก
ลูกหนู! ลูกหนูอยู่ไหน? เขาตะโกนเรียกเด็กหญิงไปทั่วบ้าน
คนอื่นๆก็พลอยกันแห่ออกมาดู
มีใครเห็นลูกหนูบ้าง? ภูสันต์ถามเร็ว
แต่ทุกคนก็พากันส่ายหน้า แสดงว่าไม่มีใครเห็น
เกศรารีบเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เกศรา ลูกหนูล่ะ? ขึ้นรถไปโรงเรียนแล้วใช่ไหม?
แต่หญิงสาวส่ายหน้า
คุณหนูไม่ทราบหายไปไหน พวกเรารออยู่ที่รถตั้งนาน ตอนนี้ก็จวนจะสายมากแล้วนะคะ มีหวังไปไม่ทันเข้าเรียนแน่
ภูสันต์ไม่อยากเชื่อ
เขาหันขวับมาจ้องนายพลมนูญนิ่งอยู่ด้วยสีหน้าอัดอั้นอยู่ เขารู้ดีว่าชายกลางคนไม่ได้ผิด แต่ถ้าหากลูกสาวของเขาเป็นอะไรไปล่ะก็
กรรชัย ระดมคนออกค้นหาให้ทั่วบ้าน และให้คนขับรถออกตระเวณไปรอบๆถนนในซอยให้ทั่ว เผื่อว่าคุณมนติกานต์อาจพาคุณหนูไปไหนไม่ไกลก็ได้ ภูสันต์หันมาสั่งการกับลูกน้องคนสนิททันที
คนอื่นแยกกันออกไปตามหาคุณหนูเร็ว ส่วนเบี้ยวกับพลขับรถไปดูในซอยให้ทั่ว กรรชัยหันไปสั่งคนทั้งหมด
ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปตามคำสั่ง
แล้วกรรชัยก็รีบตามภูสันต์ที่วิ่งออกไปที่รถหน้าบ้าน
นายภู! ผมไปด้วย กรรชัยรีบตามเขาไปขึ้นรถแทบไม่ทัน
ไม่มีใครสนใจท่านนายพลว่าจะเป็นอย่างไร
แต่นายพลมนูญเองก็ไม่ยอมรอเฉยๆเหมือนกัน เขาจึงกลับมาที่รถของตนเอง และให้คนขับรถขับตามรถของชายหนุ่มไปโดยเร็ว เพราะเชื่อว่าชายหนุ่มคงรู้จุดหมายปลายทางของลูกสาวของเขาเป็นอย่างดี
มนสิกานต์ให้คนขับรถแท็กซี่ขับมาจอดลงที่หน้าบ้านหลังนั้น กมลชนกรีบเปิดประตูรั้วออกมา
คุณมนสิกานต์ แล้วลูกฉันล่ะคะ? หญิงสาวถามเร็ว
อยู่ในรถค่ะ มนสิกานต์ตอบ
กมลชนกรีบเข้าไปดู เห็นร่างเด็กหญิงในชุดนักเรียนที่นอนอยู่
ทำไมเป็นแบบนี้คะ? กมลชนกถาม
มันจำเป็นค่ะ ถ้าไม่ทำให้หมดสติก่อน ฉันคงจะพาแกออกมาไม่ได้แน่ค่ะ มนสิกานต์ตอบเธอ
กมลชนกมองเธออย่างตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก เธอคิดว่า หญิงสาวจะพาลูกของเธอออกมาไม่สำเร็จแล้ว
สองวันก่อน มนสิกานต์มาหาคนทั้งสอง และเล่าให้ฟังเรื่องทั้งหมดว่า ที่แท้จริงแล้ว เด็กที่ภูสันต์ประกาศว่าเป็นลูกตัวเองนั้น ความจริงเป็นลูกของคนอื่นที่เอาตัวมาแสดงแทนก็เพื่อต้องการจะตบตาพวกเขาเองต่างหาก
มนสิกานต์สัญญาว่าจะหาทางไปช่วยเด็กออกมาให้ได้ แต่สองสามีภรรยาก็ไม่ได้ข่าวจากเธออีก จนเมื่อสักครู่นี้ เธอก็โทรศัพท์มาบอกให้พวกเขาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมตัวหนีได้ เพราะเธอได้ตัวเด็กมาเรียบร้อยแล้ว
กมลชนกไม่อยากเชื่อ มันเหมือนฝันไปจริงๆ
วรงค์ขนกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาพบหญิงสาว
ขอบคุณคุณมนสิกานต์มากนะครับ ที่ช่วยพาลูกของเรากลับคืนมาจากไอ้วายร้ายนั่นได้สำเร็จ ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีโอกาสตอบแทนคุณได้ วรงค์กล่าวกับเธอด้วยความซึ้งใจ
อย่ามัวพูดกันอยู่เลยค่ะ พวกคุณรีบพาเด็กหนีไปก่อนเถอะ เกิดนายภูสันต์ตามมาเจอเข้า มันจะยุ่ง มนสิกานต์รีบบอก
วรงค์เห็นด้วย เขาจึงรีบขนกระเป๋าเสื้อผ้าไปไว้ท้ายรถแท็กซี่ แล้วก็รีบตามภรรยาขึ้นมานั่งด้านหลัง กมลชนกวางลูกไว้บนตัก
แล้วคนขับแท็กซี่ก็รีบขับรถไปราวพุ่งจรวด
ภูสันต์ขับรถมาถึงบ้านของวรงค์ก็ไม่พบใคร
สองคนรีบไปดูให้ทั่วบ้าน ต่างก็หน้าซีดไปทันที
ภูสันต์วิ่งออกมาหน้าบ้าน เห็นรถท่านนายพลมนูญเข้ามาจอดอยู่หลังรถของตน
นายพลมนูญเปิดประตูรถลงมา
มนสิกานต์ล่ะ? ชายกลางคนถาม
ผมไม่ทราบ อาจจะนั่งรถกลับบ้านท่านไปแล้วมังครับ เขาตอบเสียงห้วนอยู่
นายพลมนูญมองเขาอย่างเสียใจมาก
เรื่องนี้ผมให้สัญญา ผมจะจัดการให้เอง จะให้ลูกสาวผมมากราบขอขมาคุณให้ได้
ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวเธอจะเสียเกียรติ์เปล่าๆ ผมก็แค่อยากได้ตัวลูกสาวผมกลับคืนมาเท่านั้น
งั้นคุณขับรถตามผมมาที่บ้านสิ ผมจะคาดคั้นให้เธอรับสารภาพทั้งหมดเอง เธออาจบอกเราได้ว่า เอาเด็กไปไว้ที่ไหน
ภูสันต์จำต้องพยักหน้า
จากนั้นพวกเขาก็ขับรถตามนายพลมนูญไปที่บ้านของชายกลางคน
มนสิกานต์ลงไปแช่อ่างอาบน้ำด้วยความสบายใจ เธอรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะเธอเพิ่งจะช่วยให้สองสามีภรรยาคู่นั้นได้พบกับลูกสาวสำเร็จจนได้
ป่านนี้วรงค์กับกมลชนกคงจะพาลูกสาวไปไกลแล้ว คงไม่หวนกลับมาอีก แต่ภูสันต์เองก็คงตามราวีไม่ลดละ
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวพอบิดาของเธอกลับมาเมื่อไหร่ เธอจะบอกให้เขาจับชายหนุ่มเข้าคุกไปก็สิ้นเรื่อง
หญิงสาวคิดถึงตอนนั้นก็อดยิ้มสะใจไม่ได้ เขาทำให้เธอต้องทนอับอาย ถูกขังเป็นเชลยอย่างที่เธอไม่เคยถูกใครทำแบบนั้นมาก่อน เธอจะให้เขารู้ซึ้งถึงพิษสงของเธอบ้าง
มนสิกานต์ลุกขึ้นเช็ดตัวจนแห้ง แล้วก็ออกมาแต่งตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะลงไปข้างล่าง
เธอกำลังคิดจะไปหาเครื่องดื่มเย็นมานั่งจิบ ระหว่างรอให้บิดากลับมาถึง
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงรถของบิดาเลี้ยวผ่านประตูรั้วหน้าบ้านเข้ามา เธอรีบลุกออกไปดู แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นมีรถอีกคันขับตามมา ซึ่งไม่รู้ว่ารถของใครเหมือนกัน
แต่พอเธอเห็นคนที่เปิดประตูรถลงมา เธอก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าตามมาถึงบ้าน
งั้นดีเลย เธอจะให้บิดาของเธอจัดการเขาตอนนี้เสีย
คิดแล้วเธอก็ก้าวพรวดๆออกไป แล้วก็มาประจันหน้ากับทุกคนที่รีบร้อนเดินสวนมาตรงระเบียงพอดี
แกกล้าดีนี่ ที่มาเหยียบบ้านฉันได้ แต่แกมันโง่มากกว่าที่ฉันคิด เพราะสุดท้ายแกก็ต้องไปนอนอยู่ในคุก ฉันจะให้พ่อฉันลากแกเข้าห้องขังซะ...
เพี๊ยะ!
ทุกคนพากันตกใจไปกันหมด เพราะคิดไม่ถึงว่านายพลมนูญจะลงมือตบหน้าลูกสาวเสียเอง
มนสิกานต์รู้สึกเจ็บแก้มไปหมด เธอหันมามองบิดางุนงงอย่างไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
คุณพ่อ? ตบหน้ามนทำไม? หญิงสาวถามอย่างรู้สึกไม่เข้าใจอะไรเลย
ที่ฉันตบนี่ ก็เพราะว่าแกเป็นลูก ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงส่งเข้าคุกไปแล้ว แกรู้ตัวมั้ย แกก่อเรื่องใหญ่แล้ว แกลักพาตัวลูกสาวคุณภูสันต์ไป ทำให้พ่อลูกต้องพลัดพราก แกกำลังสร้างบาปกรรมลงไปโดยไม่รู้ตัว ท่านนายพลกล่าวอย่างเสียใจยิ่ง
มนสิกานต์ยังดูไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น
คุณพ่อ...คุณพ่อไปโดนเขาเป่าหูอะไรอีกคนหรือคะ? มนสิกานต์ยังไม่คิดว่าตัวเองทำความผิด
แกยังไม่รู้ตัวอีกจริงๆหรือนี่ แกรู้หรือเปล่า คุณภูสันต์อาจจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับเด็กคนนั้นก็จริง แต่เขาก็รักลูกสาวของเขามาก และเด็กเองก็เกิดในสมรส ตอนที่เขายังไม่ได้หย่าขาดกับคุณกมลชนก ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์ในตัวเด็กคนนั้นในฐานะพ่อตามกฎหมาย
คุณกมลชนก? คุณกมลชนกเคยเป็นภรรยาของเขางั้นหรือคะ? มนสิกานต์ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่เห็นกมลชนกพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
ก็ใช่น่ะซี ฉันไม่รู้แกไปโดนอะไรเขาเป่าหูกันแน่ แต่แกก็โดนเขาหลอกเข้าแล้วล่ะ สองคนนั้นไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็ก เพราะพวกเขาเองก็เคยเซ็นใบสละสิทธิ์ในตัวเด็กให้กับคุณภูสันต์ไปแล้ว เพื่อแลกกับใบหย่าที่คุณภูสันต์เซ็นให้ มันเป็นข้อตกลงระหว่างพวกเขาในตอนนั้น
มนสิกานต์นิ่งเงียบกริบไป เธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าสิ่งที่เธอทำนั้นจะเป็นสิ่งเลวร้ายเกินคาด
งั้น...มนก็เป็นฝ่ายผิด
ใช่แล้ว ถ้าลูกรู้ตัวแล้ว ก็รีบสารภาพมา ว่าแกเอาลูกสาวคุณภูสันต์ไปไว้ที่ไหน นายพลมนูญคาดคั้น
โดยไม่ทันคาดคิด มนสิกานต์รีบวิ่งออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ ซึ่งบังเอิญเป็นรถของภูสันต์เอง เธอรีบออกรถไปโดยเร็ว
ทุกคนตกใจมาก รีบขึ้นรถท่านนายพลขับรถตามหลังไปติดๆ
มนสิกานต์ขับมาที่สถานีขนส่ง ก็รีบวิ่งไปดูตามรถแต่ละคันเป็นการใหญ่ แต่เธอก็ไม่เห็นสองสามีภรรยาอยู่ในรถ
หญิงสาวรีบไปถามเจ้าหน้าที่ว่า มีสามีภรรยาหนุ่มสาวหน้าตาดีๆที่อุ้มลูกสาวอายุห้าขวบมาขึ้นรถบ้างหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครเห็นเช่นกัน
หญิงสาวยืนงงอยู่ จนกระทั่งเห็นบิดาและคนอื่นๆลงมาจากรถ ก่อนจะเดินมาหาเธอ
พวกเขาไม่ได้มาที่นี่ พวกเขาหลอกมน พวกเขาบอกว่าจะมาขึ้นรถที่นี่ เธอพูดอย่างไม่อยากเชื่อจริงๆ
นายพลมนูญมองเธออย่างนึกสงสาร เพราะท่าทางหญิงสาวดูจะเสียใจมากจริงๆ
ไอ้วรงค์มันเป็นคนเจ้าเล่ห์ มันคงต้องการจะหลอกเราให้หลงทาง ระหว่างหาทางหลบหนี กรรชัยกระซิบบอกเจ้านายข้างหูเบาๆ
งั้นแกว่าควรทำไงดี? ภูสันต์ถาม
แจ้งความดีกว่าครับ ขอกำลังจากหลายๆหน่วยงานให้ช่วยกันตามหาสองคนผัวเมียที่มีท่าทางดูน่าสงสัย ให้วิทยุช่วยออกอากาศด้วย เผื่อจะมีคนพบเห็นพวกเขา
ภูสันต์เห็นด้วย
เขาจึงล้วงกระเป๋าหยิบมือถือออกมาเพื่อจะโทรไปแจ้งความ แต่พอเห็นมือถือก็นึกขึ้นได้ บางทีเขาอาจจะมีทางตามตัวภูริศาเจอก็ได้ ขอเพียงแต่ให้เธอรู้สึกตัวเท่านั้น
ภูริศาค่อยลืมตาขึ้นมาทีละน้อย
กมลชนกเห็นเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก
ลูกแม่ ลูกฟื้นแล้ว เธออุทานออกมา
ภูริศาผงะตกใจ รีบผลักไสเธอเป็นการใหญ่
แกเป็นใคร? จะทำอะไรฉัน? เด็กหญิงหันไปจ้องดูผู้ชายแปลกหน้าอีกคนที่อยู่ในรถก็ยิ่งตกใจมาก
พวกแก...พวกแกเป็นโจรเรียกค่าไถ่ใช่มั้ย? ภูริศาไม่อยากเชื่อว่าจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
ลูกแม่ อย่าเข้าใจผิด พวกเราเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของลูกต่างหาก คุณภูสันต์เขาไม่ใช่พ่อของหนูหรอกนะ กมลชนกบอกกับเธอให้รู้ตัว
ใช่แล้วล่ะ เจ้านั่นมันเลวร้ายมาก มันชิงตัวเอาลูกไปตั้งแต่ที่ลูกยังแบเบาะ แล้วล้างสมองลูกให้เชื่อว่าตัวเองเป็นพ่อ แต่พ่อต่างหากที่เป็นพ่อที่แท้จริง ไม่ใช่เจ้านั่น วรงค์รีบบอกเธอโดยเร็ว
โกหก! พวกแกโกหก! ฉันไม่มีวันเชื่อ ภูริศาร้องตะโกนออกมา
คนขับแท็กซี่ได้ยินก็รู้สึกฉุกใจขึ้นมา
นี่มันอะไรกันครับ? พวกคุณลักพาตัวเด็กมาจริงๆหรือนี่? เขาทำท่าอุทาน
ใช่แล้วค่ะ พวกเขาลักพาหนูมา พ่อของหนูเป็นเศรษฐี พวกเขาเลยจะลักพาหนูไปเรียกค่าไถ่ ภูริศารีบบอกกับคนขับรถแท็กซี่ด้วยหวังจะให้เขาช่วย
หุบปากนะ ยายเด็กบ้า ฉันต่างหากที่เป็นพ่อของแก วรงค์พูดอย่างโกรธจัด
ภูริศาสะดุ้งตกใจมาก เธอจ้องมองดูเขาอย่างหวาดกลัว ภูสันต์ยังไม่เคยตะคอกใส่เธอเลยสักครั้งเดียว
คุณคะ เอ็ดลูกทำไม? ลูกไม่รู้เรื่องเสียหน่อย กมลชนกตำหนิสามี
ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันชอบกล เราไปคุยกันบนโรงพักจะดีกว่ามั้งครับ คนขับแท็กซี่บอก
home ย้อนกลับ อ่านหน้าต่อไป
|