home ย้อนกลับ
บทสุดท้าย
แล้วระเด่นล่ะคะ? เราจะจัดการยังไง? หรือคุณจะไปแจ้งความ? ฟ้ารุ่งถามอย่างอยากรู้ว่าเขาจะคิดทำยังไงต่อไป
เหมวันต์ส่ายหน้า
ช่างเถอะ เพราะถึงไงระเด่นเอาไปก็คงจะใช้การอะไรไม่ได้หรอก
หมายความว่าไงคะ? ฟ้ารุ่งสงสัย
รามิลเองก็ไม่เข้าใจ
ลองคิดดู ยาอมตะถ้าผลิตกันได้ง่ายๆ ก็คงจะมีวางขายกันเกลื่อนไปแล้ว อาของผมก็ต้องใช้เวลาถึงครึ่งชีวิต กว่าจะทำได้สำเร็จ ตัวเขาเองก็เหนื่อยล้า จนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอีกต่อไป ไม่งั้นอาผมก็คงจะใช้มันเองไปแล้ว ที่สำคัญตัวยาก็ใช่ว่าหาง่ายๆ กรรมวิธีก็ยุ่งยากซับซ้อน ต้องมีการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก และต้องมีคนยอมเสี่ยงตายเป็นตัวทดลองยา ผมเคยลองคำนวณดูแล้ว คิดว่าอย่างน้อยๆคงต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปี ถึงจะผ่านขั้นตอนเหล่านี้ได้ ที่อาผมทำมันได้ก็เรียกว่าเต็มที่แล้ว ถ้าให้ทำอีกครั้งก็ใช่ว่าเขาจะทำได้อีก ระเด่นเองก็อายุขนาดนี้ จะอยู่จนทันได้ใช้มันอีกหรือเปล่าก็ยังไม่แน่เลย
ทั้งสองคนต่างเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดดี
งั้นก็น่าสงสารนะครับ อุตส่าห์ได้สูตรยาไป แต่สุดท้ายก็ใช้การอะไรไม่ได้ รามิลชักจะสงสารชายชราเต็มที
แล้วแบบนี้...คุณลุงจะสามารถผลิตยาสำเร็จหรือเปล่าคะ? ฟ้ารุ่งสงสัย
เหมวันต์ได้แต่ยิ้มเฉยๆ เรื่องนี้คงไม่มีใครตอบได้
เออ...จริงสิ รามิล เดี๋ยวแกก็โทรติดต่อคุณชาติชายไปหน่อยนะ เขาพยายามติดต่อแกหลายครั้งแล้ว
รามิลพยักหน้า
เขาควานหามือถือ พบว่ามันหล่นอยู่บนพื้น ก็เลยก้มตัวลงไปเก็บ
คุณปู่ฮะ ผมขอถามอะไรอย่างได้ไหมครับ? ทำไมคุณย่าชลิศาถึงว่าคุณทวดเป็นคนเลวฮะ?
เหมวันต์แทบไม่กระพริบตา
ชลิศาพูดงั้นเหรอ?
ฮะ แต่ท่านไม่รู้สึกตัว ตอนนั้นผมกับคุณพ่อก็ไม่กล้าถาม ดูท่านจะโกรธคุณทวดมาก ไม่ยอมให้อภัย
เหมวันต์ซ่อนสีหน้าเจ็บปวดไม่มิด
เพราะฉันเป็นลูกแท้ๆของอาชลัม
ทั้งสองคนดูตกใจมาก
จริงหรือฮะ? รามิลแทบไม่อยากเชื่อ แต่คำตอบนั้นกลับทำให้ทุกอย่างดูกระจ่างชัดขึ้น
ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนอาชลัมตายแล้ว ถึงค่อยมารู้ทีหลัง ฉันเกือบจะต้องแต่งงานกับน้องสาวตัวเองแล้ว
แทบไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
ฟ้ารุ่งยื่นมือไปจับแขนเขาให้รู้ตัว เหมวันต์หันมามองเธอ
เขายิ้มนิดๆ แม้จะดูไม่สดใสก็ตาม
ผมไม่เป็นไรแล้วล่ะ เรื่องมันผ่านไปตั้งห้าสิบปีแล้ว คนที่รู้ความจริงทุกคนก็ตายกันไปหมดแล้ว มันจบไปตั้งแต่ที่อาชลัมตายไป
งั้นผมกับคุณปู่ก็ถือเป็นญาติสนิทกันจริงๆซีฮะ รามิลพูด
เหมวันต์พยักหน้า
ใช่ แกเป็นหลานแท้ๆของฉันเอง
รามิลเข้าใจ
เดี๋ยวผมจะโทรไปคุยกับคุณชาติชายดู ว่าแต่คุณปู่คิดจะพาคุณย่าไปฮันนีมูนอีกหรือเปล่า?
เอาไว้เรื่องยุ่งๆจบดีกว่า ไปตอนนี้ก็คงไม่สนุก
ครับ ตามใจ
รามิลออกไปโทรศัพท์ข้างนอกเพื่อคุยกับชาติชายเป็นการส่วนตัว
เสียใจหรือเปล่าคะ? เรื่องระเด่น ฟ้ารุ่งถาม
เหมวันต์พยักหน้า
ที่ระเด่นยอมมาทำงานรับใช้ผม และอดทนอยู่มาได้ถึงยี่สิบปี ก็เพราะความหวังเดียวที่อยากจะได้สูตรยาอมตะ ความจริงผมเองก็รู้อยู่แล้ว ผมเองก็เคยคิดอยากจะให้เขาไปเหมือนกัน แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่า ผมต้องรักษาสัญญากับอาชลัมที่จะไม่มอบสูตรยาให้ใครง่ายๆ เพื่อไม่ให้ยานั้นตกไปอยู่ในมือคนชั่วได้
จริงของคุณค่ะ ไม่มีใครสามารถจะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ คนคำนวณไม่สู้เท่าฟ้าลิขิต ดูกรณีของคุณลุงกับคุณรามิลที่อุตส่าห์ได้สูตรยาแล้วแท้ๆ แต่ก็ถูกคนอื่นแย่งเอาไปได้
แต่ถึงแย่งไปได้ ก็ยังใช่ว่าพวกเขาจะสามารถปรุงยาได้สำเร็จ พวกเขาอาจต้องใช้เวลาไปอีกยี่สิบปี หรือสามสิบปีเลยก็ได้ เผลอๆตัวเองได้ตายไปก่อน
ถ้าอีกยี่สิบปีหรือสามสิบปี ฉันกลายเป็นแค่ยายแก่หนังเหี่ยวย่น คุณจะยังรักฉันได้อีกหรือเปล่าคะ? ฟ้ารุ่งถาม สีหน้าดูกังวลขึ้นมา
เหมวันต์ยิ้ม
คุณกลัวต้องเป็นแบบนั้นเหรอ?
ก็...ต่อให้เวลาผ่านไปอีกกี่ร้อยปี คุณก็คงจะยังคงหนุ่มแน่นแบบนี้ แต่ฉันคงจะตายไปก่อนที่จะถึงเวลานั้น
ชายหนุ่มดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้
ผมไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นหรอก วางใจเถอะ
หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจที่เขาพูด
แฮ่ม!
หนุ่มสาวรีบผละออกจากกัน
รามิลทำหน้าเฉยๆ เหมือนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
คุณชาติชายบอกว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีผมห้าสิบล้านภายในวันนี้ ท่าทางเขาใจร้อนมาก ผมคงจะต้องรีบเอาสูตรยาไปให้เขาเย็นนี้ เขาบอกกับปู่ของเขาให้รับทราบ
เข้าใจแล้ว เดี๋ยวแกก็เข้าไปนั่งรอในห้องทำงาน ฉันจะตามไปเดี๋ยวนี้
รามิลเข้าใจดี รีบเดินจากไป
เหมวันต์หันมาจุ๊บแก้มเธอ
มัดจำไว้ก่อน เขาพูดยิ้มๆ
จากนั้นก็หมุนตัวออกจากห้อง เพื่อตามหลานชายไป
ฟ้ารุ่งยิ้มอย่างมีความสุข เธอมองไปรอบๆห้อง คิดว่าต่อไปควรจะทำอะไรก่อนดี เพราะบ้านนี้เป็นบ้านของเธอ
ฟ้ารุ่งเตรียมจะทำอาหารฉลองมื้อเย็นกับเหมวันต์กันสองต่อสอง เพราะรามิลบอกว่าจะแวะไปหาลุงของเธอ คงจะไม่กลับมาค้าง เย็นนี้จึงเหลือเพียงเธอกับเขาสองคนเท่านั้น
เธอกำลังต้มน้ำซุปกระดูกหมูอยู่ เมื่อได้ยินเสียงรถคันหนึ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ด้วยความสงสัยว่าเป็นใคร เธอจึงเยี่ยมหน้าออกไปดู
แล้วเธอก็ได้เห็นหญิงสาวคนนั้น เธอจัดเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง มาดดูราวกับนางพญาหงส์ไม่มีผิด แบบนี้คงต้องเป็นลูกคนรวยอย่างแน่นอน
ฟ้ารุ่งออกไปเพื่อถามเธอว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า
มาหาใครหรือคะ? ฟ้ารุ่งถาม
หญิงสาวคนนั้นชะงัก เมื่อเห็นฟ้ารุ่ง
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ก็เธอกับคุณเหมวันต์กำลังจะเลิกกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ฟ้ารุ่งมองหน้าเธอ มีความรู้สึกคุ้นๆหน้าอยู่เหมือนกัน หญิงสาวคิดว่าเธอคนนี้อาจจะเป็นคนนึงที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เดือนไฉไลตามไปอาละวาดในพิธีแต่งงานของเธอก็ได้ ตอนนั้นทุกคนเห็นกันหมดว่าเธอกับเหมวันต์มีเรื่องกันอยู่ ไม่ว่าใครก็คงจะพากันคิดว่าเธอกับเขาจะต้องเลิกกันแน่ๆ คงจะไม่มีใครทันคิดว่าเธอกับเขาจะกลับมาคืนดีกันได้เร็วขนาดนี้
หญิงสาวอดยิ้มนิดๆไม่ได้
เสียใจด้วยค่ะ ฉันกับสามียังรักกันหวานชื่นดีอยู่ คุณคงจะมาเสียเที่ยวแล้วล่ะค่ะ เธอบอกยิ้มๆอย่างไม่นึกหวั่น
อีกฝ่ายจ้องเธออย่างกินเลือดกินเนื้อ
ตอแหล! ก็ฉันเห็นกับตา พวกเธอสองคนเข้ากันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอหลอกให้เขาแต่งงานด้วย ก็เพราะหวังอยากจะได้สูตรยาอมตะเท่านั้น ตอนนี้คุณเหมวันต์เขารู้ไส้พุงเธอหมดแล้ว ยังคิดอีกเหรอว่าเขาจะเอาเธอไว้
นี่ถ้าเธอกับเหมวันต์ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน เธอคงแทบอยากจะร้องไห้ เมื่อได้ยินวาจาเชือดเฉือนใจแบบนี้
แต่ฉันกับคุณเหมวันต์ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว และเขาก็ยอมรับฉันในสิ่งที่ฉันมีอยู่ ถ้าคุณคิดว่าจะเข้ามาแทนที่ฉันได้ล่ะก็ คุณคงต้องกลับไปมือเปล่า
ฉันไม่เชื่อ เรียกคุณเหมวันต์ออกมาพบฉันดีกว่า
ฟ้ารุ่งคิดว่า เธอคงจะไม่ยอมเชื่อ จนกว่าจะได้ยินคำพูดจากปากของเหมวันต์
หญิงสาวคิดว่าจะไปตามชายหนุ่มออกมาดีไหม แต่เธอเองก็ไม่มั่นใจตัวเองขึ้นมา หากเขาเกิดเปลี่ยนใจตอนนี้ เธอจะทำอย่างไร ปรกติเป็นเพราะว่าเขาไม่ค่อยจะได้พบผู้หญิงสาวๆสวยๆมาก่อน ถึงได้ตกหลุมรักเธอได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าเกิดมีคนใหม่ที่ทั้งสาวและสวยกว่าเข้ามา เขาจะยังมีใจรักเธออยู่ได้อีกหรือเปล่า
มีอะไรกันหรือครับ? เหมวันต์ได้ยินเสียงพวกเธอ ก็ออกมาดูด้วยความสงสัย
หญิงสาวคนนั้นเห็นเขาเข้าก็รีบเข้ามายื่นมือให้ แต่ชายหนุ่มกลับยืนเฉยๆ ทำให้เธอยิ้มเก้อ
คุณเป็นใครกัน? มาที่นี่มีธุระอะไรกับผมรึไง?
หญิงสาวฝืนยิ้มนิดๆ
ฉันชื่อจุฑารัตน์ เป็นเพื่อนคนหนึ่งของเดือนไฉไล คุณพ่อของฉันกับคุณพ่อของเดือนก็เป็นเพื่อนรักกันอยู่ จุฑารัตน์รีบแนะนำตัวให้รู้
แล้วยังไงครับ? เหมวันต์อยากจะรู้จุดประสงค์ของเธอ
จุฑารัตน์ขยับเข้ามาเกือบชิดตัวเขา ทำให้ได้กลิ่นหอมของน้ำหอมยี่ห้อดังจากนอก เป็นกลิ่นยอดนิยมอันดับหนึ่ง
ต่างกับกลิ่นของฟ้ารุ่งมาก กลิ่นของฟ้ารุ่งดูจะค่อนข้างเป็นธรรมชาติ และไม่ฉุนแรงเช่นนี้
นับแต่วินาทีแรกที่ฉันได้เห็นคุณตอนนั้น ฉันก็ทำใจลืมเรื่องคุณไม่ได้เสียที ถึงได้ต้องมาหาคุณแบบนี้ คุณเหมวันต์คะ คุณจะให้เกียรติ์คบกับฉันเป็นเพื่อนอีกสักคนได้ไหมคะ?
เหมวันต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ทันคิดไปไกลว่าคำว่า เพื่อนของเธอนั้นอาจมีความหมายพิเศษอะไรซ่อนอยู่
ก็ได้ครับ ถ้าคุณอยากจะเป็นเพื่อนกับพวกเรา ผมกับฟ้ารุ่งก็เต็มใจที่จะต้อนรับคุณเสมอ
คำว่า ผมกับฟ้ารุ่ง ทำให้เธอถึงกับสะอึกเล็กน้อย
หมายความว่าคุณกับฟ้ารุ่งไม่ได้กำลังจะแยกทางกันอยู่หรือคะ? จุฑารัตน์ถามอย่างไม่อยากเชื่อ
ฟ้ารุ่งเกือบยิ้มออกมา
ใครบอกคุณกันครับ? ผมกับฟ้ารุ่งแค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้น คนรักกัน...บางทีก็ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันบ้าง ความรักถึงจะมีรสชาติไม่ใช่หรือครับ?
จุฑารัตน์ร้องกรี๊ด
เหมวันต์สะดุ้งตกใจ รีบถอยห่างออกมา
เขาคิดว่าได้เจอเดือนไฉไลคนที่สองเข้าเสียแล้ว
ฉัน...ฉันกลับล่ะ
จุฑารัตน์หน้าแดงกล่ำไปหมด
เธอทำท่าเดินจ้ำๆไปที่รถอย่างคนรีบร้อนอยู่ไม่น้อย
เดี๋ยวก่อนค่ะ จู่ๆฟ้ารุ่งก็เรียกเธอเอาไว้
อะไร? จุฑารัตน์ถามห้วนๆ
ฉันแค่จะบอกคุณว่า หากคุณอยากจะได้สูตรยาอมตะจริงๆล่ะก็ ให้บอกพ่อของคุณลองติดต่อกับคนที่ชื่อรามิลดีกว่าค่ะ เขาเป็นหลานชายของคุณเหมวันต์
จุฑารัตน์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ขอบใจที่ช่วยบอก
จากนั้นเธอก็ขึ้นรถแล้วขับจากไป
จะดีเหรอ? ไปบอกให้เขารู้แบบนั้น เหมวันต์ชักไม่แน่ใจ
ดีแล้วล่ะค่ะ ต่อไปเธอก็จะได้ไม่เข้ามายุ่งกับพวกเราอีก พวกเราก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ อีกอย่างถึงเธอจะได้สูตรยาไป ก็ใช่ว่าเธอจะสามารถปรุงมันสำเร็จได้จริงๆ เธออาจต้องรอจนตัวเองกลายเป็นคุณย่าทวดไปแล้วก็ได้
เหมวันต์ยิ้ม คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะเป็นคนหัวไวขนาดนี้ เขาไม่ทันคิดถึงเรื่องพวกนี้มาก่อน
เข้าบ้านกันเถอะ เมื่อกี้ผมรู้สึกเหมือนกับได้กลิ่นเหม็นไหม้อะไรไม่ทราบ คุณทำอะไรทิ้งไว้หรือ?
ตายแล้ว ฉันต้มน้ำซุปกระดูกหมูทิ้งไว้
ฟ้ารุ่งรีบวิ่งกลับเข้าบ้าน
และแล้วก็มาถึงเวลานั้น ฟ้ารุ่งใจเต้นระส่ำไปหมด รู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆไม่ได้ เพราะนี่ถือเป็นคืนแต่งงานคืนแรกของเธอกับเขาอย่างแท้จริง
ฟ้ารุ่งอาบน้ำเสร็จก็สวมชุดนอนสีขาวบริสุทธิ์ แล้วเธอก็นั่งรอเหมวันต์อยู่ในห้องเงียบๆ
แต่ชายหนุ่มกลับหายไปไหนไม่ทราบ เธอนั่งรออยู่เป็นนานจนเริ่มชักสงสัยขึ้นมาว่า เขามัวไปทำอะไรอยู่ไหนกันแน่
เหมวันต์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็หายไปเลย บอกแต่ให้เธอเข้าไปอาบน้ำและให้รออยู่ก่อน
ฟ้ารุ่งเกือบจะออกไปตาม เมื่อจู่ๆเขาก็เดินกลับเข้ามา
หญิงสาวรีบหรุบตามองพื้น เขินอายจนบอกไม่ถูก
ฟ้ารุ่ง เขาขยับเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอ
ฟ้ารุ่งจึงค่อยเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหน้าเขา เพราะอยากรู้ว่าเขามีอะไรจะพูดกับเธอ
เหมวันต์มีสีหน้าดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย
คืนนี้เป็นคืนแต่งงานของเรา... ชายหนุ่มพูด
ฟ้ารุ่งหน้าแดงเรื่อน้อยๆอย่างน่าดู
ถึงจะช้าไปสักหน่อย แต่คืนนี้ก็เป็นคืนแต่งงานของเรานะ
ไม่ต้องบอก ฟ้ารุ่งก็เข้าใจดี
ถ้าไม่เป็นเพราะเดือนไฉไล เมื่อคืนนี้ควรจะเป็นคืนแต่งงานของพวกเขา แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้ว
นับแต่นี้เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่คุณก็รู้ดีว่าร่างกายของผมไม่เหมือนกับคนทั่วไป
ฟ้ารุ่งนิ่ง รู้สึกว่าเขากำลังพูดอะไรบางอย่างที่ดูจะสำคัญมากทีเดียว
ผมไม่อาจใช้ชีวิตเหมือนกับคนปรกติ แน่นอนว่าคนที่จะมาเป็นภรรยาของผมเองก็ต้องพลอยเป็นเช่นนั้นไปด้วย แล้วคุณจะยินยอมใช้ชีวิตแบบที่ไม่ปรกตินี้กับผมตลอดไปหรือเปล่าครับ ฟ้ารุ่ง
หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างแปลกใจเล็กน้อย
ทำไมมาถามแบบนั้นเอาตอนนี้ล่ะคะ? ฉันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณแล้วนะคะ คุณเหมวันต์
ผมอยากจะถามให้แน่ใจ ผมต้องการความยินยอมโดยสมัครใจจากคุณก่อน ผมไม่อยากจะฝืนใจคุณให้ทนอยู่กับผมไปแบบนี้ ชั่วนิรันดร์มันยาวนานมากนะครับ มันไม่มีที่สิ้นสุด แล้วเราก็ไม่มีวันรู้เลยว่า มันจะไปลงเอยที่ตรงไหน ผมอยากให้คุณลองคิดทบทวนให้แน่ใจเสียก่อน เพราะถ้าคุณเลือกเดินทางนี้แล้ว คุณจะไม่มีวันถอยหลังกลับไปได้อีก
ฟ้ารุ่งอึ้งเล็กน้อย เข้าใจความหมายที่เขาบอก
ค่ะ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ร้อยกี่พันปี ฉันคงจะยังขอใช้ชีวิตร่วมกับคุณ ฉันพูดจากใจจริงของฉันค่ะ และไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วย
เหมวันต์ยิ้มเล็กน้อย
แปลว่า...คุณพร้อมที่จะยอมเป็นของผม และกลายเป็นคุณย่าที่ทั้งยังสาวและสวยไม่มีวันเปลี่ยนใช่ไหมครับ?
ฟ้ารุ่งพยักหน้า สงสัยจริงๆว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
สักวันเธอก็จะแก่ตัวลง เนื้อหนังเหี่ยวย่น คงจะกลายเป็นคุณย่าที่ยังสาวและสวยอย่างที่เขาว่าไม่ได้
เหมวันต์ยื่นมือมาข้างหน้า ในมือของเขามีหลอดเข็มฉีดยาอยู่
ฟ้ารุ่งนิ่ง
ยื่นแขนมาสิครับ ฟ้ารุ่ง
หญิงสาวยื่นแขนให้เขาโดยไม่พูดมาก
ชายหนุ่มฉีดยาให้กับเธอ เสร็จแล้วก็วางหลอดเปล่าลงบนโต๊ะข้างเตียงนั้นเอง
จากนั้นเขาก็ช่วยเธอพยุงลุกขึ้นยืน
คุณมียาอยู่กับตัวตลอดเลยใช่ไหมคะ? ฟ้ารุ่งถาม
เขายิ้ม
ครับ ผมใช้เวลาถึงสามสิบปี กว่าจะทำมันได้สำเร็จ
แต่เมื่อก่อนคุณเคยพูดไว้ว่า คุณไม่มีนี่คะ
ขอโทษด้วย ผมจำเป็นต้องโกหก ถ้าเกิดมีคนรู้สักนิดว่า ผมมียาอยู่ในครอบครอง ผมคงจะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขได้แน่ จะต้องมีคนถูกส่งมาเพื่อฆ่าผม แล้วก็แย่งเอายาไป ผมจึงต้องปิดมันเป็นความลับที่สุด แม้แต่รามิลเองก็ไม่รู้
ฟ้ารุ่งอึ้งไปเล็กน้อย
โกรธเหรอ? ที่ผมไม่ยอมบอกให้คุณรู้
เปล่าหรอกค่ะ ฉันเข้าใจดีว่า คุณทำเพื่อปกป้องชีวิตของคุณเอง แล้วทำไมฉันต้องโกรธด้วยคะ?
ชายหนุ่มดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน
ผมตั้งใจไว้แต่แรกว่า จะมอบยานี้ให้กับคนที่จะมาเป็นภรรยาของผม เพราะมันคงจะไม่ค่อยสวยแน่ ถ้าผมเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหล่อเหลา ขณะที่ภรรยาของผมแก่ตัวลงทุกวัน
ฟ้ารุ่งเกือบหัวเราะ
คุณนี่ชมตัวเองได้หน้าตาเฉยนะคะ
ผมพูดซีเรียสอยู่นะ เหมวันต์ท้วง
ฟ้ารุ่งพยายามจะไม่หัวเราะ เพราะเหมวันต์ดูจะซีเรียสอยู่จริงๆ
จริงสิ มีอยู่เรื่องที่ฉันอดสงสัยไม่ได้ ในเมื่อยาอมตะไม่ใช่สิ่งที่สามารถผลิตกันได้ง่ายๆ ทำไมอาชลัมของคุณถึงทำได้คะ?
ผมคิดว่า...เป็นเพราะเขาได้เงินสนับสนุนจากกองทัพญี่ปุ่น
กองทัพญี่ปุ่น? ฟ้ารุ่งถึงกับงงไป
คุณลืมแล้วซี ผมเป็นคนของในยุคเมื่อห้าสิบปีก่อนนะครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศของเราถูกคุมคามด้วยอำนาจของกองกำลังทหารญี่ปุ่น ผู้ชายสามคนที่มาติดต่อกับอาชลัมเป็นคนของกองทัพญี่ปุ่น พวกเขาต้องการให้อาชลัมช่วยผลิตอาวุธสงครามให้ เขาจะให้อาชลัมคิดค้นอาวุธเชื้อโรค โดยใช้คนไทยเป็นเหยื่อทดลอง
อาวุธเชื้อโรค? เหยื่อทดลอง? ฟ้ารุ่งดูตกใจมาก เธอไม่เคยได้ยินว่า มีเรื่องทำนองนี้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีบันทึกเอาไว้
แต่อาชลัมไม่สนใจเรื่องนั้น เขาจึงปฏิเสธไป และเล่าความฝันของตัวเองให้พวกเขาฟัง ดังนั้นสามคนนั่นจึงได้ร่วมมือกับอาชลัม ทำทีเหมือนกับว่า กำลังช่วยกันผลิตอาวุธสงครามให้กับทางกองทัพ แต่จริงๆ พวกเขาแอบสมคบคิดปรุงยาอมตะขึ้นมา โดยไม่ให้ทางกองทัพรู้ นี่ถ้าหากทางกองทัพญี่ปุ่นรู้ความจริงเข้า ไม่รู้เรื่องจะลงเอยยังไง ยังดีว่าหลังจากนั้นไม่นาน สงครามโลกก็สิ้นสุดลง พวกกองทัพญี่ปุ่นจึงถอนกำลังออกไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้น
ฟ้ารุ่งแค่คิดก็เสียวสันหลังแล้ว
เอ้อ...จริงสิ ฉันขอถามอีกอย่างได้ไหมคะ? คุณเสียใจหรือเปล่าคะ ที่คุณชลิศากลายมาเป็นน้องสาวของคุณเอง
เหมวันต์ก้มหน้ามองเธอ
ก็ไม่ได้เรียกว่าเสียใจ แต่ค่อนข้างช็อกมากกว่า เพราะมันหมายความว่าผมเป็นลูกชู้ ผมเองก็จำเรื่องสมัยเด็กไม่ค่อยได้ แต่รู้สึกว่าคุณพ่อผมจะไม่ค่อยยอมมองหน้าผมเท่าไหร่ บางที...ท่านอาจจะรู้ความจริงก็ได้ว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ
เธออดรู้สึกสงสารเขาไม่ได้ วัยเด็กของเขานั้นคงจะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีความสุขมากสักเท่าไหร่
ผมกับชลิศาโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน สนิทสนมกันมาก เพราะอาชลัมไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ เขามัวเอาแต่บ้าทดลองยาของเขา เราจึงเหมือนคนที่ถูกพ่อทิ้งทั้งคู่ หัวอกเดียวกัน เข้าใจกัน แล้วพอโตขึ้น ชลิศาก็เริ่มรักผมอย่างผู้หญิงที่รักผู้ชาย ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจเขา จึงคิดว่าเราน่าจะแต่งงานกันได้ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะโรคร้ายคอยเบียดเบียน ผมก็คงจะแต่งงานกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว
คุณอยากแต่งงานกับเธอหรือคะ? ฟ้ารุ่งถาม รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย
เปล่าหรอก ผมเพียงแค่สงสารเธอ และสงสารตัวเองก็เท่านั้น
หญิงสาวเข้าใจดี
คุณโกรธอาของคุณหรือเปล่าคะ? ที่เรื่องเป็นแบบนี้
ชายหนุ่มส่ายหน้า
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อบังเกิดเกล้า แล้วเขายังเป็นคนที่มอบชีวิตนิรันดร์ให้กับผมอีก ผมควรขอบคุณเขามากกว่า
ฟ้ารุ่งเห็นด้วยกับเขา
คุณคงจะเคยคิดมอบสูตรยาให้คุณชลิศา แต่เธอกลับไม่ต้องการใช่ไหมคะ? ฟ้ารุ่งนึกเดาได้
ครับ เธอเป็นลูกสาวแท้ๆของอาชลัม ดังนั้นเธอเองก็มีสิทธิ์จะได้รู้ แต่เธอกลับไม่ต้องการมัน เธอไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่เป็นนิรันดร์ เธอเกลียดงานทดลองของคุณพ่อเธอเอง
แต่ฉันว่าน่าจะมีเหตุผลอื่นอีก
เหตุผลอะไรหรือ? เหมวันต์ถาม
เพราะเธอไม่อยากจะอยู่อย่างเจ็บปวด ก็ผู้ชายที่เธอรักดันกลายเป็นพี่ชายของเธอไปนี่คะ
เหมวันต์อึ้งเล็กน้อย
ฉันอยากเห็นหน้าตาคุณชลิศาจังเลยค่ะ เธอจะเป็นคนสวยแค่ไหน
เหมวันต์ขมวดคิ้ว
ผมมีรูปเก่าๆของเธอเก็บเอาไว้เหมือนกัน แต่ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ที่ไหน ถ้าคุณอยากเห็นจริง คงต้องรื้อค้นทั้งบ้านเองแล้ว
ฟ้ารุ่งยิ้ม คิดว่าสักวันคงจะได้เห็นรูปของชลิศาแน่
ถ้าหากว่าเรามีลูกด้วยกัน ผมคิดว่าจะไม่บังคับให้เขาต้องใช้ชีวิตเหมือนกับเรา ถ้าเขาพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างคนปรกติธรรมดา ผมก็จะปล่อยเขาไป เหมวันต์บอก
ค่ะ ให้เขาเลือกทางเดินของตัวเองน่าจะดีกว่า ฟ้ารุ่งสนับสนุนความคิดของเขา
ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง? เหมวันต์ถาม เพราะตอนที่เขาถูกฉีดยานั้น เขาหมดสติไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
รู้สึกลอยๆชอบกล เหมือนไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง
ชายหนุ่มกอดเธอแน่นขึ้น
ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็คงจะหายเอง
เขาพยุงพาเธอไปนอนที่เตียง และตามขึ้นมานอนข้างๆกอดเธอไว้ไม่ยอมห่างกาย
อย่าไปไหนนะคะ คุณเหมวันต์ ฟ้ารุ่งพูดอย่างหวาดกลัวขึ้นมา
ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะอยู่ข้างกายคุณตลอด ทำใจให้สบายเถอะ ยอดรัก แล้วพรุ่งนี้คุณจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส
ฟ้ารุ่งจึงยิ้มนิดๆ ก่อนจะค่อยๆจมลงเข้าสู่ภวังค์
เหมวันต์กอดเธออย่างขับกล่อม และจับมือเธอยกขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา
หลับฝันดีนะครับ ฟ้ารุ่ง
จบบริบูรณ์
home ย้อนกลับ
|